ช่วงเวลาแห่งโอกาสของผู้ประกอบการเริ่มขึ้นแล้ว กับ 4-in-1 เมกะเทรดแฟร์ใหญ่แห่งปี โดย เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ขนงานมหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งมีถึง 4 อุตสาหกรรมใหญ่มารวมไว้ในงานเดียว เรียกได้ว่า มาแล้วครบทุกนวัตกรรม ช่วยลดต้นทุนทุกงานพิมพ์ของเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะทำงานพิมพ์แบบบิลบอร์ด โบรชัวร์ทั่วไป ไปจนถึงงานแพ็คเกจจิ้งระดับที่โรงพิมพ์ใช้ นอกจากนั้นและยังมีผลงานพิมพ์ที่ได้รับรางวัลระดับโลก มาโชว์ในครั้งนี้ด้วย
โดยงานนี้ได้รวม 4 เมกะเทรดแฟร์ใหญ่เข้าไว้ด้วยกันแบบมางานเดียวครบทุกนวัตกรรมงานที่จัดได้แก่
- “แพ็ค พริ้นท์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019”สำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชีย
- “ทีพลาส 2019” มหกรรมเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยางพาราครั้งยิ่งใหญ่ และ
- “ไวเออร์ เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2019” และ “ทูป เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2019” มหกรรมเทคโนโลยีการผลิตลวด เคเบิลท่อและท่อไร้สาย
นายพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช นายกสมาคมการพิมพ์ไทย กล่าวว่าอนาคตอุตสาหกรรมการพิมพ์ และ การบรรจุภัณฑ์ไทยยังเติบโตไปได้อีกไกล เพราะด้วยอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่มีความสำคัญต่อหลายธุรกิจ อย่างในปี 2561 ที่ผ่านมาก็มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต้องบอกเลยว่างานนี้ไม่ใช่เทคโนโลยีที่เข้าถึงยากและไกลตัวแต่อย่างใด แต่ตรงกันข้ามกลับมีความสำคัญกับทุกคนมากกว่าที่คิด อย่าง “แพ็ค พริ้นท์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” ที่เกี่ยวข้องกับงานพิมพ์ และแพคเกจจิ้งซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของแทบทุกธุรกิจ ภายในงานจึงนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยี 3 โซนเพื่อความครบวงจร
โซนแรก พาวิเลี่ยนครบวงจร (One-Stop Pack & Print Pavilion) สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อมาเติมเต็ม หรือต่อยอดธุรกิจ แนะนำให้เริ่มต้นเดินที่โซนนี้ก่อนได้เลย เป็นโซนที่มีประโยชน์ทั้งต่อผู้ประกอบการและวงการการศึกษา โซนพาวิเลี่ยนเป็นโซนจัดแสดงผลงานที่ได้รับรางวัลจากทั่วโลก อย่างเช่นงานพิมพ์ 3 มิติ, นวัตกรรมทางการพิมพ์ลักษณะพิเศษ ตลอดจนการออกแบบแพ็คเกจจิ้งทั้งแปลกใหม่และใช้งานง่าย
นอกจากจะเป็นแหล่งไอเดียใหม่ๆแล้วยังมีบริการให้คำปรึกษาและช่วยจับคู่ทางธุรกิจ ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค ซัพพลายเออร์วัสดุการผลิต และผู้ผลิตเครื่องจักร เพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
และในส่วนโซนที่ 2 และ 3 จะเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการพิมพ์ฉลาก (Labelling Zone) และโซนจัดแสดงต้นแบบ (Prototype & Design Showcase) ที่จัดแสดงนวัตกรรมเอาไว้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่เทคโนโลยีงานพิมพ์ประเภท Digital Printing ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้กับ สตาร์ทอัพโดยเฉพาะ ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักเจอคือ ความต้องการงานปริ้นจำนวนน้อย เมื่อส่งงานให้กับโรงพิมพ์แล้วไม่รับแต่ธุรกิจเล็กมีมีงบประมาณที่จำกัด ในงานนี้จะพบกับเทคโนโลนีมากมายที่สามารถแก้ไขข้อจำกัด ดังกล่าวทำให้มีอำนาจการต่อรองมากขึ้น โดยแบ่งประเภทจัดกลุ่มงานแต่ละแบบเอาไว้ดังนี้
- งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ ซึ่งสามารถพิมพ์ได้บนบรรจุภัณฑ์หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระป๋อง ขวด ถุงซิปล็อก ซองพลาสติก ทำให้แพ็คเกจจิ้งมีความโดดเด่น ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า สีสวยเด่นชัด พิมพ์หลายครั้งสีก็ไม่เพี้ยน พิมพ์ได้เร็วขึ้น
- งานพิมพ์ Textile ที่สามารถพิมพ์ได้บนเนื้อผ้า ซึ่งเหมาะมากๆ กับธุรกิจแฟชั่น คุณภาพงานที่ได้ไม่แพ้การทำลายผ้าจากโรงงาน เพราะสีไม่ซีดจาง มีความสม่ำเสมอ สามารถนำผ้าไปตัดเป็นเสื้อผ้าได้อย่างสบาย ช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
- Food Packaging นวัตกรรมการผลิตหมึกที่ปราศจากสารโคบอล จึงเหมาะแก่การนำมาพิมพ์ลงบนผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร ไม่ว่าจะเป็น กระดาษ แก้ว พลาสติก และอื่นๆ
- แอปพลิเคชั่นใหม่ @GENARATE ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข่าวสารในรูปแบบใหม่ที่ไม่น่าเบื่อ ทำให้มีความสุขกับการรับข่าวสารมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ประกอบการมีลูกเล่นในการนำเสนอทำให้ลูกค้าสนใจโฆษณาหรือแคตตาล็อกของธุรกิจ และยังทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ไม่ตายโดยการใช้นวัตกรรมให้เป็นประโยชน์
- ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ซึ่งนอกจากการรีไซเคิลวัสดุกลับมาใช้ใหม่แล้ว ยังมีโครงการ CSR ช่วยเหลือสังคม ไปจนถึงการปลูกป่าเพื่อผลิตวัสดุตั้งต้นในการผลิตงานพิมพ์ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้โลกของธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้โดยที่ทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด
ในส่วนของงาน “แพ็ค พริ้นท์” นี้ มีผู้จัดแสดงกว่า 300 บริษัททั่วโลก ซึ่งมีบริษัทชั้นนำมากมาย อาทิเช่น เอชพี (HP) ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) โคนิก้า มินอลต้า (Konica Minolta) ฟูจิฟิล์ม (Fujifilm) เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCG Packaging) แคนนอน (Cannon) ฯลฯ
นอกจากนี้ ในงานยังมี “ทีพลาส 2019” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพลาสติกและยางพารา และ “ไวเออร์ แอนด์ ทูป เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2019”เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสายไวเลสและท่อ ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำของหลากหลายอุตสาหกรรม อย่างเช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ หุ่นยนต์ การแพทย์ บริการซ่อมบำรุง ตลอดจนการพัฒนาสาธารณูปโภคของไทย มีความสำคัญในการนำพา SME ไทย เติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ต้องบอกเลยว่าการจัดงานครั้งนี้มีประโยชน์ต่อบุคคลหลายภาคส่วน ส่วนแรกที่เห็นได้ชัดเจน คือ การสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ได้เข้าถึงนวัตกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อนำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้มีศักยภาพการแข่งขันซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่สามารถไปไกลถึงระดับสากล
อีกส่วนหนึ่งคือผู้บริโภคที่จะได้ใช้สินค้าและบริการใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการใหม่ นำพาให้ชีวิตไปสู่ความทันสมัย มีความสะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น
4-in-1เมกะเทรดแฟร์นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2562 ที่ ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงกว่า 900 บริษัทชั้นนำทั่วโลก เป็นอีกหนึ่งโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการดู นวัตกรรมและ เทคโนโลยีใหม่ๆ เก็บมาเป็นไอเดียทางธุรกิจ ไม่ควรพลาด ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.pack-print.de