เมื่อแนวทางที่คนบอกไว้ ก็มีคนทำกันมาหมดแล้ว แล้วเราจะประสบความสำเร็จที่ต่างจากเขาได้อย่างไร?
ถ้าไม่มีวิธีใหม่ เราเองก็ต้องทำวิธีเดียวกับเค้านั่นแหละ เพียงแต่ “ต้องทำให้มากกว่า…ถึงจะเหนือกว่า”
…เหนือกว่าได้ ถ้า “เห็นโอกาสที่คนอื่นมองข้าม”…
อย่างพิธีกรงาน event คนหนึ่ง เค้าชอบไปงานฟรีที่ไม่ได้ค่าตัว! คือปกติเวลาที่ไปเป็นพิธีกรก็ต้องได้ค่าตัวเสมอ แต่เธอคนนี้แม้งานไม่สำคัญแต่เธอก็ยังไป เช่นไปทำบุญกับเอเจนซี่ หรือไปกับลูกค้าบ้าง
ปรากฏว่าทั้งลูกค้าและเอเจนซี่จำหน้าเธอได้ดี หลังจากนั้นเธอได้งานกลับมาไม่ขาดเพราะไปสร้างความคุ้นเคยไว้ กลายเป็นว่าได้โอกาสในสิ่งที่พิธีกรคนอื่นไม่คิดทำ
…เหนือกว่าได้ ถ้า “ค้นหาปัญหาจริงจังกว่าคนอื่น”…
พนักงานขายรถคนหนึ่ง เขาพยายามขายรถเท่าไหร่ก็ปิดการขายกับลูกค้าคนหนึ่งไม่ได้ ทั้งลดทั้งแถมอุปกรณ์แต่งรถทุกอย่างแต่ก็ยังขายไม่ได้สักที
สุดท้ายเลยตัดสินใจถามลูกค้าว่า “เพราะอะไรถึงไม่ยอมซื้อรถใหม่?” ลูกค้าเลยบอกว่าเพราะขายรถคันเก่ายังไม่ได้
พอได้รู้ พนักงานจึงหาทางช่วยให้คนมาซื้อรถมือสองต่อจากลูกค้า เมื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ลูกค้าก็เลยมาซื้อรถคันใหม่กับเขา
…เหนือกว่าได้ ถ้า “ทำมากกว่าคนอื่น”…
คนเราไม่ขาดสิ่งใดก็สิ่งหนึ่ง (โอกาส การศึกษา เงินทุน ประสบการณ์ ฯลฯ) แต่ สิ่งที่ขาด ไม่ได้ตัดสินว่าจะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ
ถ้ารู้ว่าขาดอะไร วิธีแก้คือ “ให้ทำมากกว่าคนอื่น” ทุ่มเททำมัน สร้างมันขึ้นมา เช่น ถ้าขาดประสบการณ์ก็ต้องทำเกินกว่าหน้าที่ หรือช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อแลกประสบการณ์กลับมา เท่านั้นเอง
…เหนือกว่าได้ ถ้า “อดทน”…
คนสมัยนี้เก่ง โดยเฉพาะคน Gen Y เพราะเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและความรู้รอบตัวเยอะ ทำให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ยังขาดคือ “ความอดทน”
ฉะนั้น ถ้าเก่งอยู่แล้วต้องเสริม “ความอดทน” เข้าไปด้วย เป็นวิธีที่ทำให้คน Gen Y เหนือกว่าและโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ
การจะประสบความสำเร็จ ไม่ต้องไปไล่หาวิธีทำยังไงให้แตกต่างอย่างเดียว ทุกวันนี้กลายเป็นว่า ใครๆก็หาแต่ความแตกต่างทั้งนั้น
ถ้าสังเกตให้ดี “ทุกวิธีจะมีช่องโหว่เสมอ” วิธีที่แตกต่างของเรา ก็แค่มองหาช่องโหว่ให้เจอ แล้วอุดให้ได้ เท่านี้ก็เป็นการสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าแล้ว
#สำเร็จได้เพราะเหนือกว่า
#ไปให้ถึง100ล้าน
ธรรมชาติของความสำเร็จ… “ไม่มีสูตรตายตัว”
