Online Marketing Trend สิ่งที่ SMEs ต้องเรียนรู้ เป็นที่รู้กันดีว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคตั้งแต่เริ่มระบาดครั้งแรกในเดือน ก.พ.จากนั้นมีการล็อกดาวน์ คลายล็อกดาวน์ และตอนนี้ผู้คนกำลังวิตกกังวลจากการติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้งที่จังหวัดระยอง ทำให้ผู้บริโภคหวั่นไหวอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการค้าขายและการบริการ
และนอกจากจะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคและการซื้อสินค้าต่างๆ ลดลง ยังมีพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะช่องทางการจับจ่ายซื้อสินค้าที่หันมาช็อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ส่งผลให้ E-Coomerce มีบทบาทมากขึ้น และแน่นอนว่าธุรกิจที่จะอยู่รอดได้ในอนาคตต้องปรับตัวเข้าสู่การขายออนไลน์
จากข้อมูลของ Priceza ในการแถลงข่าว Priceza virtual conference
ที่ผ่านมาเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาด e-Commerce ไทยปี 2020 คาดการณ์ว่าตลาด e-Commerce ไทยอาจพุ่งสูงถึง 220,000 ล้านบาท โดยในปี 2020 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 35% จากปี 2019 ที่มีมูลค่า 163,300 ล้านบาท โดยพบว่าในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นั้น ยอดขายออนไลน์ในธุรกิจสุขภาพและความงามและสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนก่อนการระบาด
นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ SMEs ที่ต้องหาช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น หรือจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม
จากข้อมูล ETDA สัดส่วนมูลค่าตลาด -Commerce ไทยเฉพาะ B2C (business-to-consumer) และ C2C (consumer to consumer) พบว่าช่องทาง e-Marketplace ถือว่าเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคนิยมใช้ในการซื้อของออนไลน์มากที่สุดในปัจจุบัน
และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังมีการขายออนไลน์บน Social Media ในลักษณะ micro marketplace ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าจับตา อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา มีการสร้างคอมมิวนิตี้ Facebook Group เพื่อเป็นพื้นที่ขายสินค้า ซึ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ดึงกลุ่มผู้ซื้อได้มากถึง 1.06 ล้านคน และมียอดการลงขายของมากถึง 5.4 แสนครั้งต่อเดือน ดังนั้น SMEs ต้องปรับรูปแบบการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภค สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในยุคนี้