สถานการณ์ในตอนนี้ของคนทำธุรกิจส่วนใหญ่ที่ได้เจอคือ “ถ้าไม่ถดถอย…ก็เท่าทุน” แต่ถึงยังไง ก็ยังมีธุรกิจบางส่วนที่สามารถเติบโตและทำกำไรได้ ยกตัวอย่างแบบเช่น แม็กซ์ เฮเดน เด็กนักเรียนอายุ 16 ปีจากสหรัฐฯ ที่ได้ใช้ช่วง “โควิด เปลี่ยนให้เป็น “โอกาส” โดยแมกซ์ได้มองเห็นถึงว่าเวลาคนอยู่บ้านนาน ๆ จะต้องขาดอะไรบ้าง และเอาสิ่งเหล่านั้นมาขายในออนไลน์ ด้วยธุรกิจที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่สามารถทำรายได้มากถึง 1.7 ล้านดอลลาร์ภายในปีเดียว (ประมาณ 53 ล้านบาท) นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะ Case Study นี้ได้ย้ำว่า หากเข้าใจลูกค้าด้วยพฤติกรรมใหม่ แล้วมีการปรับตัวทางธุรกิจทำสิ่งใหม่ ๆ เลยทันที จากวิกฤตก็อาจจะเป็นได้ทั้ง “โอกาสใหม่” และ “ทางออกของการทำธุรกิจ” ได้เลยทีเดียว โดยจากการศึกษาเคสธุรกิจที่ผ่านทางรอดในช่วงนี้ได้ แบบยังสามารถต่อสู้ทำยอดขายให้เติบโตได้เพิ่มขึ้น มีการปรับตัวใช้เทคนิคตามนี้คือ
1.สร้างธุรกิจในออนไลน์แล้ว ต้องทำให้ “จริงจัง”
เจ้าของธุรกิจหลายคนที่ทำธุรกิจ คงได้นำสินค้าและบริการของตัวเองเข้าออนไลน์กันหมด แต่ยังมีหลายเจ้าที่ไม่ได้ผลเพราะ ไม่ได้ใช้แบบจริงจัง จะมีแค่เปิดไว้และทำเพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น วิธีเอาตัวรอดในยุคนี้ ต้องกลับมาคิดใหม่ ใช้ช่องทางออนไลน์ทั้งหมดให้จริงจัง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่หลายธุรกิจนิยมใช้คือ Facebook, IG, LINE OA, Tiktok และ Youtube เป็นแพลตฟอร์มที่ต้องวางแผนการใช้ให้จริงจัง ทั้งการเลือกใช้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย หรือใช้หลายตัวก็ต้องเอาเครื่องมือเหล่านี้มาเรียงให้ชัดเจน ว่าแต่ละเครื่องมือนั้นมีจุดเด่นจุดด้อยอะไร ทำอะไรได้บ้าง เพื่อสร้างแผนการดำเนินการให้ได้รู้ว่าควรทำอะไรต่อ
เช่น ร้านค้าเจ้าหนึ่งจากที่เมื่อก่อนขายแค่ใน Facebook เพียงอย่างเดียว เมื่อเริ่มเรียงการทำงานของแพลตฟอร์มต่าง ๆทำให้ได้รับรู้ว่ามีลูกค้าบางกลุ่มชอบคุยผ่านไลน์มากกว่า จึงเริ่มส่งลูกค้าจาก Inbox ไปที่ Line OA โดยจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ในช่วงแรกเพื่อช่วยดึงดูดการทำยอดขายในพื้นที่ใหม่ ผลที่ได้พบว่าการบรอดแคสต์ใน Line OA มีผลกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นแบบชัดเจนมาก ทำให้ได้ช่องทางการโปรโมทที่ได้ผลอีกทาง ในส่วนนี้หากมีแค่มี ไม่ได้นำมาเรียงหรือลองใช้จริงจัง ก็อาจจะเสียโอกาสให้คู่แข่งได้ และยิ่งยุคนี้ที่ลูกค้าต้องอยู่บ้านซะส่วนใหญ่ เครื่องมือทางออนไลน์จึงมีผลที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ช่วยให้หลายธุรกิจที่ใช้งบน้อย มีโอกาสสร้างยอดขายที่ใหญ่ได้
สิ่งที่อยากแนะนำเจ้าของธุรกิจ SME อีกอย่าง คือ ต้องมองหาข้อเสนอดี ๆ ในช่วงนี้ควบคู่ด้วย เพราะด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีหลายองค์กรเข้าใจคนทำธุรกิจออกข้อเสนอดี ๆ มาให้ ช่วยเป็นประโยชน์ทางธุรกิจได้ดีมาก เช่น ตอนนี้ได้ไปเจอการได้รับ “แพ็กโทรและเน็ตฟรี” จากโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ที่ AIS SME มอบให้สำหรับคนทำธุรกิจ SME นิติบุคคลและสมาชิก Bizup โดยเฉพาะ ดูรายละเอียดได้ที่ https://m.ais.co.th/MYH0dZnud
และแค่นั้นยังไม่พอ หากคนทำธุรกิจที่ใช้โฆษณาจาก Facebook Ads, Google Ads, LINE Ads Platform และ TikTok Ads อยู่ ก็ยิ่งแนะนำให้ไปสมัคร เพราะ จะได้รับสิทธิ์การทำโฆษณา “เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า” มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท แคมเปญนี้ออกแบบมาแบบเข้าใจ และช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจแบบจริงจัง ดูรายละเอียดได้ที่ แพ็กเกจ SME Digital Service ที่ https://m.ais.co.th/epHodvrfY
2.ขายของมากกว่า 1 อย่าง ให้มองสินค้าตามกระแสด้วย และขยายเวลารับลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ช่วงปกติเมื่อก่อน การทำธุรกิจส่วนใหญ่จะมองร้านค้าหรือบริษัทเป็นเพียงแค่ร้านเดียว ทำอย่างเดียว หรือขายของเพียงแค่ในหมวดของตนเอง นั้นสามารถทำได้ดีในเวลาปกติ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน “ขายเพียงของอย่างเดียวไม่พออีกต่อไป” เพราะเมื่อไรที่ได้รับผลกระทบนั้นคือต้องเสียยอดขายทันที ควรจะกระจายลดความเสี่ยง หาสินค้ามาขายเพิ่ม เช่น สินค้าตามกระแสนั้น ๆ หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้าที่เรามีอยู่ เพื่อสร้างโอกาสการขายได้ดีกว่า ใช้ความเป็นตลาดเสรีแบบออนไลน์ให้คุ้มค่าที่สุด เพียงแค่เปิดร้านออนไลน์ใหม่ก็เป็นร้านค้าได้แล้ว หรือเอาไป Collaboration กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันก็จะเป็นผลดีกับธุรกิจ ทั้งหมดนี้คือการทำในขั้นต้น
ในการเอาชนะคู่แข่งแนะนำว่า ต้องหาแหล่งใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำเดิม จากการนั่งศึกษาและค้นหา จนได้ไปเจอวิธีหนึ่งที่จะได้เข้าถึงลูกค้ากว่า 40 ล้านคน ที่มีกำลังซื้อแบบคุณภาพ เป็นโซนใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากเพราะมีช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายใหม่ได้จริง คือ “เอไอเอสพารวย”
AIS SME พารวย คือ คือแอปที่เหมาะสำหรับร้านค้ารายย่อย หรือบริษัทเล็ก ๆ ที่ต้องการทำรายการส่งเสริมการขายบนฐานลูกค้า AIS ที่มีกว่า 40 ล้านเลขหมาย ช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆ โปรโมทสินค้าแบบได้ผลจริง โดยข้อสำคัญ สมัครฟรี ตัวแอปจะยังมีฟีเจอร์ที่ทำให้ร้านค้าสามารถรับ เอไอเอสพอยท์ จากลูกค้า AIS เพื่อใช้แทนเงินสด เป็นค่าส่วนลด ค่าสินค้าผ่าน QR Code และเมื่อปิดยอดของวันนั้นร้านค้าก็เปลี่ยนพอยท์เป็นรายได้เข้าบัญชีแบบอัตโนมัติทุกวัน
แค่ได้โปรโมทก็คุ้มแล้วครับ ดูรายละเอียดได้ที่ https://m.ais.co.th/loH9GB6IB
3. “ลดต้นทุน” ปรับโครงสร้างแบบไม่คิดเอง “ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญช่วย” ได้ผลดีกว่า
ช่วงวิกฤตมีหลายธุรกิจต้องปรับโครงการใหม่ ด้วยความที่ในแต่ละธุรกิจนั้นมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ไม่เหมือนกัน การปรับโครงสร้างที่ดี จึงควรมีการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงที่ให้คำปรึกษา เพื่อที่จะไม่ต้องไปลองผิดถูก มีหลายครั้งที่เจ้าของร้านค้าหรือ SME ที่ต้องคิดคนเดียวหรือมีข้อมูลไม่ชัดเจน ในการเลือกปรับโครงสร้างต่าง ๆ ทำให้การตัดสินใจนั้นผิดพลาดได้ เช่น การลดราคาสินค้าจะไม่ได้มีแค่ลดราคา แต่สามารถใช้กลยุทธ์แบบซื้อแล้วได้เพิ่ม แบบ 1 แถม 1 ได้ด้วย ก็เป็นกลยุทธ์ลดราคาเช่นกัน
ดังนั้นทางที่ดีของคนทำธุรกิจจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับคำแนะนำและมุมมองใหม่นำมาใช้ได้ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่แนะนำ เจ้าของธุรกิจสามารถไปปรึกษาได้ฟรีทั่วประเทศคือโครงการ “AIS SME เพื่อนรู้ใจ SME” ในที่นี้จะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งจริง แบบลงมือทำตามได้ เพื่อสร้างมุมมองที่จะทำให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้ในช่วงนี้ แบบเพื่อนรู้ใจคุยกัน ให้คำปรึกษาฟรีรายละเอียดที่ https://m.ais.co.th/YyHwDQ7CE
4.ลดความเสี่ยงธุรกิจด้วยการ “ลีนค่าใช้จ่าย” และบุกตลาดใหม่เสมอ ไม่ว่าเจอเหตุการณ์ไหน ก็รับมือได้
จากสถานการณ์คนทำธุรกิจในช่วงนี้ รายจ่ายทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก เพราะไม่มีรายได้เข้ามา การลดความเสี่ยงจึงมีความจำเป็นมากในหลายธุรกิจที่ต้องทำบ่อย ๆ เช่นเรื่องพื้นฐานแบบ ค่าโทร เน็ต ควรจะหาข้อเสนอที่เหมาะสมกับธุรกิจที่สุด ครอบคลุมไปจนถึงการตอบโจทย์ที่มากกว่าในทุกแพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์ โดยในบทความนี้ได้รวบรวมมาให้หลายแพ็กเกจที่น่าสนใจเพื่อลีนค่าใช้จ่ายใหม่ และได้รับประโยชน์มากขึ้นแบบเลือกได้ตามสเกลของธุรกิจ
ลีนค่าใช้จ่ายออนไลน์ ให้จ่ายแบบสบายๆ ด้วย SME eMarket ตอบโจทย์ครบทุกแพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์
เชื่อว่าหลายธุรกิจคงมีทำออนไลน์อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเองในทุก ๆ เดือน วิธีที่คุ้มค่ากว่านั้นคือเอาทุกอย่างมารวมกันเหมือนแพ็กนี้ “SME eMarket” จุดเด่น คือลดค่าใช้จ่ายทางออนไลน์ได้เยอะมาก ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ไปจนถึงสร้างร้านออนไลน์และจัดการร้านค้าออนไลน์ เรียกว่าทุกธุรกิจควรติดแพ็กนี้ไว้เป็นพื้นฐานเลยก็ว่าได้ ราคาเพียง 649 บาท/เดือน เท่านั้น เพิ่มเติม : https://m.ais.co.th/DeHYr98S8
เสริมความแข็งแกร่ง แบบจ่ายน้อยกว่า ด้วย “SME Super Mesh WiFi”
แพ็กนี้จะทำให้เน็ตธุรกิจ “เต็มสปีด” เร็วแรงแบบไม่สะดุด ทั้งการพรีเซนต์งานใหม่ ประชุมกับลูกค้า ประชุมกันในทีม จนถึงการค้นหาและส่งต่อข้อมูลภายในต่าง ๆ ช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้นแบบไร้รอยต่อ ครอบคลุมเวลาทำงานตั้งแต่ 8 โมง เช้ายัน 2 ทุ่ม ด้วยราคาที่คุ้มมากเพียง 888 บ./ด. รายละเอียดเพิ่มเติม : https://m.ais.co.th/3bHgvxat8
ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับดี ๆ ที่ ช่วยลดต้นทุนและสนับสนุนให้ทุกธุรกิจเติบโตได้ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันแบบคัดมาให้แล้ว ยังมีอีกหลายแพ็กเกจที่เหมาะกับคนทำธุรกิจโดยเฉพาะ สามารถดูได้ที่ https://m.ais.co.th/2WH20gOiQ
สุดท้ายนี้อยากย้ำให้เจ้าของธุรกิจทุกท่านว่า ไม่ว่ายังไงเม็ดเงินจะมีแค่ 2 สถานะ หยุดนิ่งหรือไม่ก็ไหลไปทางใดทางหนึ่ง คนทำธุรกิจจึงควรอยู่ให้ถูกฝั่งตามเม็ดเงินที่ไหลไปมาด้วย
“การปรับตัว” เข้าใจในเหตุการณ์ และพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะช่วยธุรกิจให้รอดและเติบโตต่อไป
ขอเป็นหนึ่งแรงใจที่เอาใจช่วยทุกธุรกิจให้ยังคงรอด และผ่านพ้นสถานการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกันครับ
#AISSME #เพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่องSME