ชี้ช่องทางธุรกิจร้านกาแฟ ชานมในกัมพูชาหลังตลาด “บูม” พาณิชย์ชวนคนไทยตะลุยลงทุนในกัมพูชา

ชี้ช่องทางธุรกิจร้านกาแฟ-ชานมในกัมพูชาหลังตลาด “บูม” พาณิชย์ชวนคนไทยตะลุยลงทุนในกัมพูชา

ถึงแม้ในไทยมีธุรกิจกาแฟ-ชานมอยู่ทุกมุมถนน แต่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยโอกาสการเติบโตของธุรกิจ กาแฟ-ชานมของไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะไลฟ์สไตล์ของชาวกัมพูชาได้เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงาน มักจะไปนั่งจิบกาแฟ พบปะสังสรรค์ หรือนัดคุยธุรกิจกันตามร้านกาแฟที่บรรยากาศดีๆ น่านั่งกันมาก ส่งผลให้ธุรกิจกาแฟ-ชานมได้รับการตอบรับอย่างดี และปัจจุบันมีแบรนด์ชานมไข่มุกเข้ามาทำตลาดในกัมพูชามากขึ้น

ปัจจุบัน ร้านกาแฟและชานม เปิดให้บริการกว่า 300 ร้าน ในกรุงพนมเปญ และประมาณ 500 ร้านทั่วประเทศ โดยแบรนด์ไทยที่เข้ามาเปิดให้บริการแล้วกว่า 10 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Black Canyon, True Coffee, Inthanin, Arabitia, ดอยช้าง, ดอยหล่อ และชาวดอย เป็นต้น โดย Amazon เป็นที่นิยมมาก มีสาขากว่า 140 สาขา ส่วนแบรนด์อื่นๆ เช่น Brown Coffee มีเจ้าของเป็นชาวกัมพูชา, Starbucks มีสาขา 20 สาขา และล่าสุด Arabica จากญี่ปุ่น เพิ่งเข้าไปเปิดสาขา ส่วนชานมไข่มุก มีแบรนด์ชื่อดัง เช่น Tiger Sugar, The Alley, Dakasi, KOI, The Xing Fu Tang, Chatime เป็นต้น ส่วนแบรนด์ของไทย เช่น Fire Tiger, Crown, ชาตรามือ, Kamu, Moma’s bubble tea, Rin Rin Bubble Milk Tea, Nobicha เป็นต้น ผู้สนใจหาข้อมูลได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ สคต.ณ กรุงพนมเปญ

ทั้งนี้ นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้แนะแนวทางสำหรับผู้ประกอบการไทย ที่สนใจจะเข้าไปทำตลาดและขยายธุรกิจในกัมพูชาว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน และการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศกัมพูชาควรเข้าไปในรูปแบบใด เพื่อให้ประสบความสำเร็จ แต่ต้องลงทุนสูงและต้องศึกษาทำเลเป็นอย่างดีด้วยตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ

อ้างอิง : https://bit.ly/2Yet0sZ
https://bit.ly/3hc2Yhc