K PLUS shop ใหม่ ไม่ใช่แค่รับโอนเงิน หรือสแกนบาร์โค้ดแบบที่คุ้นชิน ด้วยฟังก์ชั่นอัพใหม่เด่นๆ ที่มีมากถึง 9 อย่าง ช่วยให้ทุกงานขาย…ปิดจ๊อบได้ง่ายขึ้น ออกแบบมาเพื่อพ่อค้าแม่ค้าโดยเฉพาะ เป็นแอปธนาคารอันแรก ที่รู้สึกว่าทำมาเพื่อช่วยในการปิดการขาย ได้แบบเห็นผลจริงๆ ตั้งแต่ผู้ใช้ที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ หรือขายตามตลาดนัด ยันทำธุรกิจจนมีหน้าร้าน ก็สามารถใช้ได้หมดทุกระดับ
จุดเด่นใน K PLUS shop เวอร์ชันใหม่นั้น ช่วยจัดการข้อมูลลูกค้า,มีระบบช่วยบันทึกข้อมูลสมาชิก, บริหารระบบพนักงานให้เข้ามาจัดการบัญชีได้ ไปถึงช่วยออกเลขที่พัสดุในการส่งของ พร้อมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยเชื่อมกับ Shippop เปรียบเทียบราคาขนส่งชื่อดังแต่ละเจ้า ที่ในวงการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะรู้จักกันดี ทุกงานขายจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเพียงแค่กดๆทำตามระบบ โดยสรุปฟังก์ชั่นที่น่าสนใจทั้ง 9 อย่างมีดังนี้
1. QR Code 2 แบบ ร้านค้าสามารถสร้าง QR Code ได้ทั้งแบบระบุยอดเงิน และไม่ระบุยอดเงิน
เมื่อคุณเป็นร้านขายเสื้อผ้าตัวละ 250 บาท ทั้งร้าน คุณก็สามารถใส่เลขราคา 250 บาทเพื่อสร้าง QR Code ขึ้นมารอไว้ หลังจากนั้นเมื่อลูกค้าเห็นสินค้าของคุณ และต้องการจะซื้อ คุณก็เพียงแค่เอา QR ตัวนี้ให้ลูกค้าสแกน ยอด 250 ก็ขึ้นพร้อมโอนทันที
แต่ถ้าขายเสื้อผ้าได้หลายตัว หรือมีหลายราคา ก็สามารถสร้าง QR ส่งให้ลูกค้ากรอกจำนวนเงินที่ต้องการชำระเองได้
2. แจ้งเตือนเงินเข้าแบบ Real time พร้อมเสียงพูด ทุกครั้งที่มีเงินเข้าร้าน
ลองคิดถึงร้านขายกาแฟที่ช่วงเที่ยงๆ จะมีคนมาต่อคิวสั่งซื้อเยอะมาก ปกติต้องจ่ายเงินสดมีการทอนตังค์กันทำให้ ลูกค้าคนอื่นต้องรอนานขึ้นไปอีก หากเปลี่ยนมาใช้การรับชำระเงินด้วย QR Code แทน ก็ไม่ต้องมานั่งหาตังค์ทอนอีก เพราะทุกครั้งที่ขายสินค้าได้หรือมีลูกค้าโอนเงินเข้ามา จะมีข้อความเตือนเงินเข้าให้รู้ทันที แถมด้วยเสียงพูดแจ้งเตือนยอดเงินให้ผู้ขายทราบ เสียงที่พูดจะเตือนบอกว่า “มีเงินเข้า …บาท” เหมาะกับเจ้าของร้านที่ไม่มีเวลามองหน้าจอโทรศัพท์ ก็สามารถฟังเสียงแจ้งเตือนและรู้ยอดเข้าได้ทันทีแบบไม่ผิดพลาด แถมยังสามารถตรวจสอบรายการโอนเงินจากลูกค้าได้ง่ายๆ ด้วยการแสดงไอคอนของแต่ละธนาคาร
3. ร้านมีพนักงานหลายคน จัดการเพิ่มบัญชีพนักงานของร้านค้า เข้าไปในแอปได้
เมื่อร้านเริ่มใหญ่ธุรกิจเริ่มโต ก็เริ่มมีลูกน้องและพนักงานเพิ่มขึ้น การจัดการเรื่องเงินผ่านแอป ปกติเจ้าของจะเป็นคนจัดการเรื่องเงินได้คนเดียว ทำให้เวลาลูกค้าโอนเงินมาต้องมานั่งเช็คจัดการเอง พนักงานไม่สามารถช่วยได้ แต่ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ของ K PLUS shop จะสามารถเพิ่มสิทธิ์ให้พนักงานดูแลแทนและสามารถรับแจ้งเตือนเงินเข้าได้สูงสุด 10 คน เงินเข้าเมื่อไหร่ พนักงานก็รับรู้ยอดโอนได้แต่จะเข้าดูได้เพียงบางส่วนที่จำกัดไว้ หมดกังวลเรื่องการทุจริตของพนักงาน ทำให้เจ้าของร้านมีเวลาในการจัดการธุรกิจด้านอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ไป เอาเวลาไปโฟกัสกับยอดขายได้
4. สร้างบิล QR เรียกเก็บเงินทาง Social Media ด้วยฟีเจอร์ “บิลแมวเขียว”
บิลออนไลน์ที่ช่วยให้แม่ค้าหมดปัญหาการขายของออนไลน์ ที่ผู้ซื้อผู้ขายมักพูดคุยซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้ซื้อต้องจำเลขที่บัญชี และเสียเวลาเปิดหลายหน้าจอ ในฝั่งผู้ขายเองก็ต้องเสี่ยงกับสลิปปลอม รวมถึงต้องเสียเวลาในการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินของผู้ซื้อ แต่ถ้าแม่ค้าออนไลน์สร้างบิลแมวเขียว
ส่งผ่าน Social Media ปุ๊บ ลูกค้าก็กดชำระปั๊บ ได้รับเงินถูกต้อง และยังใส่รายการสินค้าได้ถึง 10 รายการ โดยระบบยังช่วยคำนวณยอดรวมราคาสินค้าทั้งหมดให้อัตโนมัติ ช่วยให้เรียกเก็บเงินได้สะดวกไม่ผิดพลาด แม้ว่าบิลจะมีอายุ 24 ชั่วโมง แต่หากเกินเวลาชำระ แม่ค้าสามารถส่งซ้ำได้โดยไม่ต้องสร้างบิลใหม่ให้เสียเวลา ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก
5. ร้านค้าออนไลน์ปิดการขาย ประหยัดต้นทุน พร้อมจัดส่งได้ง่ายขึ้นด้วย Shippop
ปัญหาหลักของการทำธุรกิจขายของออนไลน์ คือการขนส่งที่เมื่อลูกค้าโอนเงินมาเรียบร้อยแล้ว ต้องนำข้อมูลไปป้อนเพื่อใช้ในการจัดส่งทำให้ยุ่งยากมาก K PLUS shop ได้มีการเชื่อมต่อกับระบบของ Shippop ที่แสดงสถานะการจัดส่งสินค้าชัดเจน เช็กสถานะได้ ชำระค่าขนส่งสะดวก และยังช่วยทำใบแปะหน้ากล่องพัสดุ เรียกได้ว่าสะดวกง่าย ปลอดภัย ทำให้ไม่พลาดแม้แต่ออเดอร์เดียว นอกจากนี้ Shippop ยังช่วยเปรียบเทียบราคาการขนส่งแต่ละเจ้า ทำให้ร้านค้าบริหารต้นทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น
6. ไม่ใช่แค่รับชำระเงินจากในไทย นักท่องเที่ยว สกุลเงินต่างชาติ ก็รับเงินได้
K PLUS shop รับชำระได้หมดทั้ง Alipay / WeChat Pay จบปัญหาเรื่องการรับเงินจากนักท่องเที่ยวชาวจีน พร้อมเปลี่ยนสกุลเงินให้แบบเสร็จสรรพ เมื่อนักท่องเที่ยวกดซื้อระบบจะมีการเปลี่ยนสกุลเงินให้ทันทีตามเรตการแลกเปลี่ยนเงิน คือ คนจีนจะเห็นราคาเป็นหยวน แม่ค้าเจ้าของร้านเห็นรายรับเป็นบาท ทำให้ง่ายขึ้นในการขาย ไม่ต้องมานั่งคำนวณว่าเป็นกี่บาท ปิดการขายได้ง่ายขึ้น แถมแม่ค้าสมัครใช้บริการเองผ่านแอปฯ ได้เลยไม่ต้องยุ่งยากนำเอกสารไปสมัครที่สาขาของธนาคาร
7. รายงานยอดขาย ไม่ได้มีแค่ตัวเลข มีข้อมูลลูกค้าว่า “ใครซื้อมาก ใครซื้อน้อย” เอาไปทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อได้
K PLUS shop เป็นแอปแรกที่ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้าแบบแม่นยำที่สุด เพราะอิงจากข้อมูลการโอนที่เกิดขึ้นจริง สามารถรายงานยอดขายอย่างละเอียดทั้งรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ช่วยบริหารการขาย เก็บสถิติร้านค้า แสดงรีพอร์ต สรุปให้เข้าใจได้ง่าย และช่วยให้เจ้าของร้านเข้าใจลูกค้ามากขึ้น รู้หมดว่าสินค้าไหนขายดี และคนไหนคือ ลูกค้าใหม่ คนไหนคือลูกค้าเดิม และคนไหนเป็นขาประจำ
8. บัตรสะสมแสตมป์ Loyalty Program สร้างได้ทันทีไม่ต้องสลับแอป
อีกฟีเจอร์ที่ทำให้ K PLUS shop เป็นแอปฯ ที่ร้านค้าต้องมี คือ การสร้าง Loyalty Program ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ด้วยบัตรสะสมแสตมป์ที่ช่วยให้ SME สามารถทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งโปรโมชั่นต่างๆ และการสะสมยอดเพื่อการสร้างยอดขายที่ต่อเนื่องและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้ทันที
9. เปิดตลาดเพิ่มยอดขายบน K PLUS Market ที่มีผู้ใช้งานกว่า 9.4 ล้านราย
ร้านค้าจะไม่โดดเดียวอีกต่อไป ไม่ต้องลุยเองคนเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้แม่ค้าเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าผ่าน K PLUS Market ซึ่งเป็น E-Marketplace ของแอปพลิเคชัน K PLUS ที่มีฐานลูกค้ากว่า 9.4 ล้านราย และยังสามารถทำโปรโมชั่นให้ปรากฎบน K PLUS เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและร้านค้าให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสร้างยอดขายที่มากขึ้น สิทธิ์พิเศษนี้เฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดขายบน K PLUS shop เท่านั้น
