ราคา “ทองคำ” ที่ขึ้นสูง จะได้ไปต่อหรือต้องระวัง
ในขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางทั่วโลกยังไม่เห็นผลนัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงเริ่มผันผวน ทำให้สินทรัพย์อย่าง “ทองคำ” ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏการณ์นี้กำลังบอกอะไรเราอยู่ และแนวโน้มจะเป็นอย่างไร
ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศทั่วโลก สำหรับการระบาดของโควิด-19 และการระบาดรอบ 2 ในหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐ บราซิล และอินเดีย ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยิ่งล่าช้าออกไปอีก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน การท่องเที่ยว
แต่ประเด็นที่น่าจับตามองคือ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่คาดว่าจะมีต่อเนื่องและยังไม่เห็นผลในเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากหนัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือสินทรัพย์อื่นๆ มีความเสี่ยงประชาชนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
จะเห็นได้ว่าราคาทองพุ่งสูงถึง 2,000 เหรียญฯ ในรอบหลายปี นั่นเป็นสัญญาณที่กำลังบอกอะไร…??
การปรับตัวของราคาทองคำสะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงข้อพิพาทเรื่องสงครามการค้าและความขัดแย้งทางการเมืองของสหรัฐฯและจีน ตลอดจนค่าเงินสกุลต่างๆ อ่อนค่าลง จากการอัดฉีดเงินจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนบางส่วนจึงเลือกลงทุนในทองคำที่มองว่ามีคุณค่าในการปกป้องความมั่งคั่ง (Preserve real value of wealth)
ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองและจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคาทองคำ
คือ การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการวิจัยผลิตวัคซีนส่งผลให้ราคาทองคำเริ่มเปลี่ยนทิศทาง
ดังนั้น ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจจนทำให้สินทรัพย์ไม่น่าลงทุน แต่ความต้องการมีทองไว้ในครอบครองทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปมากจนอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการเข้าซื้อควรพิจารณาขายทำกำไร ส่วนระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าทองคำจะเป็นขาขีึ้นไปจนถึงปี 2021
โดยสรุปแล้วทองคำเป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนจึงต้องจัดสรรน้ำหนักการลงทุนทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
อ้างอิง : https://bit.ly/33Ti9rY