เศรษฐกิจไทย “ผ่านจุดต่ำสุด” คาดเริ่มดีขึ้นไตรมาส 3

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยไตรมาสที่ 2/63 หดตัวถึง -12.2% และคาดถึง -13% ถึง 17%

เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลพวงจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเป็นผลพวงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกีดกันทางการค้า ทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และยังส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปีนี้เศรษฐกิจไทยหดตัวถึง 6.9% 

ทั้งนี้ การปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ลงนั้นอยู่ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจโลกหดตัว -4.5% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 43 ดอลลาร์/บาร์เรล ค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ การส่งออกลดลง -10% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน รายได้การท่องเที่ยว 3.1 แสนล้านบาท อัตราการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 ราว 91.8%

ถึงอย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีนี้จะฟื้นตัวได้ช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในทั่วโลกว่าจะมีการผลิตวัคซีนออกมาใช้ได้หรือไม่ เพราะถ้าวัคซีนออกมาได้เร็วเศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 64

ส่วนปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจดีขึ้นในปีนั้น ขึ้นอยู่กับ

1.ความสำเร็จในการควบคุมและป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และผ่อนมาตรการปิดสถานศึกษาและการเดินทาง
2.การเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาครัฐ
3.การปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกของช่วงครึ่งปีหลัง
4.การผลิตและส่งออกสินค้าสำคัญที่ได้ประโยชน์

ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. พลังงาน กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ไม่ได้ทำให้เราดีใจ เพราะประชาชนยังเดือดร้อน ดังนั้น มาตรการที่รัฐบาลจะออกมาขับเคลื่นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือผู้ประกอบการ 

อ้างอิง : https://bit.ly/314NJ3Y