รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร“ก้าวข้ามอุปสรรคได้เร็ว” ทำตามเพียงเงิน หมดแรงที่จะทำบ่อยๆ

คนส่วนใหญ่อาจใช้ชีวิตแบบไหลไปตามกระแส ไร้ทิศทาง ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีแผน วิ่งตามความเร่งด่วน ทำตามคนอื่น และไม่เคยตั้งคำถามว่านิสัยที่ทำอยู่ทุกวันกำลังพาพวกเขาไปถึงจุดหมายที่ต้องการรึเปล่า

หลายคนพยายามค้นหาเส้นทางสู่ความสำเร็จ แต่พลาดเพราะไม่มีระบบที่ชัดเจน ทั้งที่ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นผลลัพธ์ของการทำตาม “เคล็ดลับ” ที่คนเก่งใช้กัน

จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก นักเขียน Olly J พบว่าความแตกต่างระหว่างคนธรรมดากับคนที่ประสบความสำเร็จคือ “วิธีคิดและระบบการใช้ชีวิต” ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

เขาบอกว่า “เกมแห่งความสำเร็จ ถูกออกแบบมาเพื่อคนส่วนน้อยที่เล่นอย่างมีกลยุทธ์” ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณมีระบบที่ถูกต้อง ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และนี่คือ 18 เคล็บลับของชีวิตที่จะช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้มากกว่าคนอื่น 90%

1. ให้ความสำคัญกับ คุณภาพการนอนก่อนอื่น คุณไม่สามารถชนะเกมได้ ถ้าเล่นในขณะที่อ่อนล้า

การนอน คือเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ทรงพลังที่สุดในชีวิต ตั้งเป้าหมายนอน 7-9 ชั่วโมงของการนอนที่มีคุณภาพ เข้านอนเวลาเดียวกัน ตื่นเวลาเดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้น คนที่ประสบความสำเร็จรู้ดีว่าการนอนน้อยเพื่องาน ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ แต่เป็นการฆ่าศักยภาพของตัวเอง

2. สร้างวันขั้นต่ำพื้นฐาน ที่ชนะเสมอ คนที่ประสบความสำเร็จไม่พึ่งแรงจูงใจ แต่พึ่งระบบ

ออกแบบวันพื้นฐานที่ทำให้คุณชนะ แม้ในวันที่แย่ที่สุด โฟกัสที่สิ่งสำคัญ 3-5 อย่างที่ต้องทำให้ได้ เช่น ออกกำลังกาย, โฟกัสกับงานสำคัญ 30 นาที, เดินออกไปข้างนอก, เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม สิ่งสำคัญคือทำอย่างสม่ำเสมอมากกว่าทำให้สมบูรณ์แบบ

3. ล้างพิษโดปามีนทุกวันอาทิตย์ ตัดขาดจากสิ่งที่ยั่วยุสมอง ด้วยความสุขราคาถูก

ชีวิตสมัยใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีสมองคุณด้วยโดปามีนราคาถูก ทั้งอินสตาแกรม เน็ตฟลิกซ์ อาหารขยะ แอปสั่งอาหาร หนึ่งวันต่อสัปดาห์ ตัดทุกอย่างออกไป ไม่ว่าจะเป็น โซเชียลมีเดีย อาหารขยะ แอลกอฮอล์ และความบันเทิงออนไลน์ รีเซ็ตสมองของคุณ ปล่อยให้ความเบื่อกลับมา นั่นแหละเมื่อความคิดดี ๆ จะผุดขึ้น

4. ปกป้องช่วงเช้าอย่างเด็ดขาด งานที่ต้องใช้สมาธิและความคิดสร้างสรรค์ คือ งานที่ได้ค่าตอบแทนสูงที่สุด

โลกจะขโมยความสนใจของคุณถ้าคุณไม่ปกป้องมัน กฎคือ ไม่มีการประชุม โทรศัพท์ หรือข้อความก่อน 10 โมงเช้า ช่วงเช้าคือเวลาสำหรับการสร้างสรรค์ ไม่ใช่การบริโภค คนที่ประสบความสำเร็จใช้ช่วงเวลาที่สมองปลอดโปร่งที่สุดทำงานที่สำคัญที่สุด

5. ตามหาสิ่งที่ให้พลังงานแก่คุณ ไม่ใช่เงิน ถ้าคุณทำงานที่ดูดพลังงานคุณตลอดเวลา เงินเท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม

ความสำเร็จระยะยาวมาจากพลังงานที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่วินัย ให้ลองถามตัวเอง ว่าอะไรทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา? ทำสิ่งนั้นให้มากขึ้น เพราะความหลงใหลคือพลังใจที่ไม่มีวันหมด ในขณะที่ความเกลียดชังในงาน คือสิ่งที่จะทำลายศักยภาพของคุณในระยะยาว

6. เลือกรับข้อมูลที่มีคุณภาพ สมองคุณเหมือนฟองน้ำ สิ่งที่คุณบริโภคหล่อหลอมวิธีคิดของคุณ

ตรวจสอบทุกอย่างที่คุณบริโภค พอดแคสต์, ช่องยูทูป, อินสตาแกรม, กลุ่มเพื่อน ถ้ามันไม่สอดคล้องกับตัวตนในอนาคตที่คุณต้องการเป็น ตัดมันออกไป วงการวิจัยพฤติกรรมพบว่าสภาพแวดล้อมทางความคิดมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ในชีวิตมากกว่าที่คุณคิด

7. หาที่ปรึกษาส่วนตัว เพราะความสำเร็จเป็นกีฬาประเภททีม

รวบรวม 3-5 คนในชีวิตคุณที่ท้าทายคุณ สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ และเตือนคุณเมื่อคุณไม่ได้ใช้ศักยภาพเต็มที่ พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้ว่าอยู่ในสถานะที่ปรึกษาของคุณ แค่ให้แน่ใจว่าคุณฟังพวกเขา คนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่าพวกเขาไม่อาจไปถึงจุดสูงสุดได้ตามลำพัง

8. กฎ 100 ทำทักษะที่คุณต้องการจะเชี่ยวชาญให้ครบ 100 ครั้ง

100 อีเมลเสนอขาย 100 วิดีโอยูทูบ 100 ครั้งของการออกกำลังกาย ปริมาณสร้างคุณภาพ คนส่วนใหญ่ล้มเลิกที่ 10 ครั้ง จึงไม่เคยเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง ข้อมูลจากนักจิตวิทยาชั้นนำแสดงให้เห็นว่าการทำซ้ำ 100 ครั้งเป็นจุดวิกฤตที่ทักษะใดก็ตามจะเริ่มฝังลึกและกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนคุณ

9. ทำให้สิ่งไม่สำคัญเป็นอัตโนมัติ ถ้ามันไม่ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของคุณหรือให้พลังคุณให้ทำเป็นอัตโนมัติ มอบหมายหรือลบทิ้ง

เวลาคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของคุณ ปฏิบัติกับมันอย่างนั้น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่าง Bill Gates และ Steve Jobs เลือกที่จะใส่เสื้อผ้าเหมือนเดิมทุกวันไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่เพื่อลดการตัดสินใจที่ไม่จำเป็น และเก็บพลังงานสมองไว้กับสิ่งที่สำคัญกว่า

10. ฝึกตัวเองให้เสพติด การปิดอะไรที่ค้างคา ไม่ว่าจะเป็นงานที่ยังไม่เสร็จ อีเมลที่ยังไม่ได้อ่าน การสนทนาที่ล่าช้า

ให้ใช้กฎ 2 นาที คือ ถ้าอะไรใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที ทำมันทันที ปล่อยให้งานต่างๆ รอนานเกินไปไม่เพียงแต่ทำให้งานยากขึ้น แต่ยังสร้างความเครียดใต้จิตสำนึกที่ลดประสิทธิภาพการทำงานของคุณในทุกด้าน

11. สร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการโฟกัส สร้างพื้นที่หนึ่งแห่งในบ้านคุณ ที่เกิดขึ้นแค่งานที่ต้องใช้สมาธิเท่านั้น

ไม่มีโซเชียลมีเดีย ไม่มีการกิน ไม่มีสิ่งรบกวน ฝึกสมองของคุณว่าเมื่อคุณอยู่ในจุดนั้น มันคือเวลาทำงานจริงจัง การวิจัยสมองชี้ให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมที่คงที่สำหรับงานประเภทเดียวเท่านั้นมีผลดีต่อการสร้างสถานะโฟลว์ (flow state) ซึ่งเพิ่มผลผลิตได้ถึง 500%

12. ถามคำถามที่ดีกว่า แทนที่จะถาม “ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดกับฉัน?” ให้ถาม “เรื่องนี้สอนอะไรฉัน?”

คำถามที่คุณถามตัวเองกำหนดทิศทางความคิดและชีวิตของคุณ นักจิตวิทยาที่ศึกษาผู้ประสบความสำเร็จระดับสูงพบว่า พวกเขาไม่มัวแต่จมอยู่กับปัญหา แต่มองหาบทเรียนและโอกาสที่ซ่อนอยู่ในความท้าทาย

13. สร้างระบบทบทวนรายสัปดาห์ กันเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกวันอาทิตย์ เพื่อทบทวนสิ่งสำคัญ

ตารางนัดหมาย จัดช่วงเวลาการทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง นิสัยเดียวนี้ป้องกันความรู้สึกถูกครอบงำและทำให้สัปดาห์ของคุณเป็นไปตามแผน การศึกษาจาก Harvard Business Review พบว่าการวางแผนล่วงหน้า 60 นาทีต่อสัปดาห์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากถึง 20% และลดความเครียดลงอย่างมีนัยสำคัญ

14. เชี่ยวชาญการสื่อสารเชิงรุก เรียนรู้วิธีมอบหมายงานโดยไม่รู้สึกผิด ปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล

พูดอย่างมีอำนาจในที่ประชุม ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดไม่ได้เพียงทำงานหนักกว่า พวกเขาสื่อสารได้ดีกว่า พวกเขาสื่อสารอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา และยังคงให้เกียรติผู้ฟัง ซึ่งสร้างทั้งความเคารพและความไว้วางใจ

15. สร้างชั่วโมงแห่งความเงียบทุกวัน หนึ่งชั่วโมงต่อวัน ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเพลง ไม่มีการพูดคุย

แค่คิด จดบันทึกหรือเดิน ในความเงียบคุณจะได้ยินคำตอบที่คุณหามานาน จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า การใช้เวลาอยู่กับตัวเองวันละ 15-60 นาทีโดยไม่มีสิ่งรบกวน ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ถึง 30% และลดความเครียดได้ถึง 25%

16. เดิน 10,000 ก้าวทุกวัน การเดินคือเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ถูกมองข้ามมากที่สุด

มันช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และรักษาร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าโดยไม่สูญเสียพลังใจ นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองพบว่าการเดินเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมองถึง 15% ซึ่งช่วยเพิ่มความจำ สมาธิ และความสามารถในการคิดสร้างสรรค์อย่างมีนัยสำคัญ

17. เลือกลงมือทำเป็นค่าเริ่มต้น ถ้าคุณติดอยู่ระหว่างการคิดหรือการกระทำ ให้เลือกการกระทำ

การเคลื่อนไหวสร้างความชัดเจน การรอสร้างความวิตกกังวล ข้อมูลจากศาสตร์ด้านจิตวิทยาพฤติกรรมแสดงให้เห็นว่า การลงมือทำแม้เพียงขั้นตอนเล็กๆ จะกระตุ้นระบบรางวัลในสมอง ช่วยให้คุณสร้างโมเมนตัมแทนที่จะติดอยู่ในวงจรการวางแผนไม่รู้จบ

18. สร้างวิสัยทัศน์ แล้วถอดรหัสย้อนกลับ ถ้าคุณไม่รู้ว่ากำลังจะไปไหน คุณจะไปลงเอยที่ไหนก็ได้

เขียนวิสัยทัศน์ในอีก 5 ปีของคุณ

๐ วันที่สมบูรณ์แบบของคุณเป็นอย่างไร?

๐​ คุณหาเงินได้เท่าไหร่?

๐ คุณล้อมรอบด้วยใคร?

จากนั้นถามตัวเองว่า คนที่ใช้ชีวิตแบบนั้นจะทำอะไรวันนี้?

คนส่วนใหญ่เสียเวลาเป็นทศวรรษรอความชัดเจน แรงจูงใจ หรือการอนุญาตจากคนอื่น แต่คุณไม่จำเป็นต้องรอ ให้เริ่มจากสิ่งเล็กๆ คงความสม่ำเสมอ และโฟกัสไปที่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แล้วคุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตในทางที่ดีขึ้น

อ้างอิง https://bit.ly/43DlHNQ