งานที่ทำอยู่…มันใช่หรือไม่?
ถ้าเจองานที่ชอบจะรู้สึกว่า “ปัญหา มันไม่ใช่ปัญหา”…
คนที่รักงานจะอยากเอาชนะเรื่องที่ตัวเองยังทำไม่ได้ ถ้าวันนี้ยังทำหน้าที่ไม่ดี เขาจะกลับไป ฝึกเพิ่ม ทำเพิ่ม จนกว่าจะทำได้
ถ้าเป้าหมายยังไม่ผ่านจะหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไรแล้วกลับไปแก้ให้ครั้งหน้าดีกว่าเดิม
อยากทำงานให้ “เสร็จสมบูรณ์” ไม่ได้อยากทำงานให้เสร็จตามเวลา…
คนส่วนหนึ่งจะทำงานด้วยการเอาเวลาเป็นตัวตั้ง แล้วทำยังไงก็ได้ให้งานมันจบไปตามเวลาเลิกงาน
แต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่สนุกกับทุกอย่างที่ได้ทำ ทำตามความสำคัญ ทำให้เสร็จ ไม่ได้เอาเวลามากฎเกณฑ์
ถ้าเจองานที่ชอบจะรู้สึกว่า “ท้าทาย” ไม่ใช่กดดัน…
ถ้าได้ทำงานที่ใช่จะรู้สึกว่าได้เรียนรู้ อยากเก่งขึ้นอีก ดีขึ้นอีก โฟกัสกับการพัฒนา ความรู้สึกแบบนี้มีจริง
มันเป็นสัญชาตญาณของคนที่ได้ทำงานที่ชอบ มันจะเกิดขึ้นเองเป็นอาการที่บังคับไม่ได้
รู้สึกว่า “ถ้าได้รับผิดชอบ” จะรู้สึกมีความสำคัญ…
จะมองว่าถ้าได้รับผิดชอบคือการสะท้อนว่าเจ้านายไว้ใจแล้วในระดับหนึ่ง
จึงไม่เกี่ยงถ้าได้รับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น และถ้าหากเจ้านายไม่ได้มอบหมายอะไรให้ เขาจะอาสาทำเพิ่มเอง
คนอื่นเห็นว่า “เราทุ่มเท” โดยที่เราไม่ต้องป่าวประกาศ…
เรื่องพวกนี้ดูได้ไม่ยาก เราทำงานกับใครแล้วช่วยเขาทำงานง่ายขึ้นมั้ย เราช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อนร่วมงานได้มั้ย
ถ้าเราไม่อยู่เขาเรียกหาเราหรือเปล่า ผลของทั้งหมดนี้ได้มาจากความทุ่มเทของเรา
งานคือ “ครึ่งหนึ่งของชีวิต” ลองคิดดูว่าถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่รักกว่าครึ่งชีวิตมันจะเจ็บปวดมากแค่ไหน
ลองถามตัวเอง
คุณอายุเท่าไหร่ ? ทำงานมาแล้วกี่ปี ?
และงานที่คุณทำอยู่นั้นสนุกหรือน่าเบื่อ ?
ถ้าเช็คลิสแล้วยังไม่ใช่ตัวเองมากกว่าครึ่ง ก็คงต้องหาวิธีปรับเปลี่ยนบ้างแล้ว