มีเพื่อนที่เก่งๆหลายคน ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ…ยังต้องทำงานหนักแบบเอาตัวเข้าแลก
ห้ามป่วย ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามตาย วันไหนหายไปไม่เข้าบริษัท ทั้งบริษัทจะเหมือนรถน้ำมันหมดเอาเฉยๆ
ทำแล้วก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิด แทนที่จะได้เป็นคนคอยสั่งงานแล้วปล่อยให้ระบบเป็นตัวควบคุมงาน
แทนที่จะได้เอาเวลาไปหาแนวทางพัฒนาธุรกิจเดิม ไปหาไอเดียใหม่ คิดโปรเจ็กต์อื่น หรืออย่างน้อยก็ได้พัก
คิดจะเลิกทำแล้วทำกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่ได้ เพราะมีลูกน้อง 10-15 ชีวิตต้องดูแล
กลายเป็นมีนายเพิ่มเป็น 10-15 คน
คุณมีเพื่อนแบบนี้มั๊ย ? แล้วสงสัยมั๊ยครับว่าทำไมชีวิตเค้าถึงเป็นแบบนั้น
ในโลกของการทำงาน มีคนอยู่ 3 ประเภทที่คุณต้องเข้าใจ
1. คนคิดเก่ง
2. คนทำเก่ง
3. คนบริหารจัดการเก่ง
คิดเป็น…
คนคิดเป็นเหมือนกับสมองถูกฝึกมาให้คิดอยู่ตลอดเวลา มันจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ ไม่ต้องแลกมาด้วยการเอาเวลาไปทำเอง
ทำเป็น…
ก็คือลงมือทำจนชำนาญ ทำจนเก่ง แต่จะติดปัญหาตรงที่ว่ากลัวลูกน้องทำงานไม่เรียบร้อย เลยทำเองเพราะทำเก่งกว่า
นี่คือสิ่งที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดกันอยู่มาก ทุกคนกลัวงานไม่ดี กลัวรั่วไหล และอีกสารพัด
แต่การ “คิดเป็น”กับ “ทำเป็น” มันใช้เวลาต่างกันนะครับ
เหมือนเอาเวลาของผู้จัดการมานั่งทำงานเสมียน เลยกลายเป็นเอาเวลาที่สามารถไปสร้างมูลค่าได้มานั่งทำงานธรรมดา .
แล้วแบบนี้งานที่ไหนมันจะเดินหน้า
คนที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจได้ต้องมีสัดส่วนของทั้ง 3 ประเภทผสมกัน โดยหนักไปทางข้อ 3 ไม่ใช่ 1 หรือ 2
คนบริหารจัดการเก่ง…
ทำเป็นแต่จะไม่ทำเองทั้งหมด จะมองทุกอย่างเป็นภาพกว้าง รู้หน้าที่หลัก และ วางแผนบริหาร
จะจัดการงานที่คนอื่นทำไม่ได้ คือ คิด บริหาร จัดสรรคนมารับหน้าที่หลักแต่ละอย่าง
อันไหนต้องทำก่อนหลัง ทุกกิจกรรมจะถูกวางลำดับไว้อย่างมีแบบแผน
คนบริหารจัดการเก่งนั้น สามารถแม้กระทั่งว่า งานไหนหาใครมา “คิดแทน”
จะฝึกคนขึ้นมาแล้วให้ไปทำต่อ โดยที่ตัวเองแทนไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายอะไรมากนัก
คล้ายกับคนเล่นหมากรุกเก่งๆ เค้าจะกินฝ่ายตรงข้ามยังต้องค่อยๆปิดล้อม วางหมากแต่ละขั้น
เหมือนเด็กเล่นหมากรุกที่กินเบี้ยฝั่งตรงข้ามได้ตัวนึงแล้วดีใจบ้านแทบแตก
แต่อาจจะลืมนึกไปว่ายังมีตัวหมากรุกอีกเต็มกระดาน …เหมือนงานอีกร้อยกว่าอย่างยังรออยู่
ถ้าอยากประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าของธุรกิจ …ต้องปรับความคิดและวิธีทำงานใหม่…
โดยขอให้เริ่มแก้จากตัวเองก่อน พยายามย้ายตัวเองจากพวก คิดเก่ง ทำเก่ง มาเป็น “นักบริหารจัดการที่เก่ง”
สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ตัวเองว่า…
ทำเองได้ทุกอย่างมันน่าภูมิใจ แต่ถ้าทุกอย่างดำเนินไปได้โดยไม่ต้องลงมือทำเอง “มันน่าภูมิใจกว่า”