DINKs แนวทางของ คู่รักยุคใหม่เน้น “มีเงิน” แต่ ไม่เน้นมีลูก

DINKs แนวทางของ คู่รักยุคใหม่
เน้น “มีเงิน” แต่ ไม่เน้นมีลูก
.
ในช่วงหลายเดือนนี่ผ่านมาเราอาจได้ยินข่าวว่าประเทศไทยมีอัตราการเกิดที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ แสดงข้อมูลจำนวนการเกิดประจำปี 2564 ซึ่งพบว่า มีจำนวนประชากรเกิดใหม่ ลดลงจากปี 2563 ถึง 42,798 คนแถมยังเป็นปีแรกที่มีอัตรา การเกิดน้อยกว่าการตาย
.
สาเหตุที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่มีลูกก็เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับประเทศ จนไปถึงระดับโลก หรือสงครามการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงการระบาดของโรคที่ไม่อาจควบคุมได้และอาจร้ายแรงกว่าเดิม
.
จากปัจจัยต่าง ๆ จึงส่งผลต่อพฤติกรรมด้านการเงินของคนในสมัยนี้ให้เปลี่ยนไป เรามักจะเรียกกลุ่มนี้ว่า “DINKs” ย่อมาจาก “Double Income No Kids” แนวทางของคู่รักยุคใหม่ที่มีเงินแต่ไม่มีลูกนั่นเอง
.
แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อประชากรเกิดน้อยลงแต่มันยังส่งผลต่อเงินในประกระเป๋าของครอบครัวที่อาจเพิ่มสูงขึ้น
.
CNBC Select เคยให้ความเห็นไว้ว่า พฤติกรรมของคนกลุ่ม DINKs จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะมีรายรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากสามารถตัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกออกไปทั้งหมด และคนกลุ่มนี้ยังไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่ราคาแพงเพื่อให้ลูกวิ่งเล่นอีกด้วย
.
แต่หากคนกลุ่มนี้วางแผนด้านการเงินไม่ดีก็อาจตกเป็นเหยื่อของการตลาดสินค้า luxury ได้ เพราะเมื่อพวกเขาคิดว่าไม่มีภาระเรื่องลูก จึงมักใช้จ่ายเพื่อตัวเองมากกว่าครอบครัวอื่น ๆ
.
แล้วคนกลุ่มนี้จะต้องวางแผนทางการเงินในชีวิตคู่ของเขายังไง?
.
1. จัดลำดับแผนทางการเงิน
.
การมีรายได้ 2 ทางในครอบครัวไม่ได้แปลว่าจะมีรายได้ดีเสมอไป เพราะสิ่งเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับการจัดการและปัจจัยต่าง ๆ เช่น เงินเดือน ค่าครองชีพ หนี้สิน และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จำเป็น
.
Brian Walsh, Certified Financial Planner (CFP) จาก SoFi กล่าวว่า การจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายด้านการเงินอาจช่วยให้บางคู่รักสามารถเกษียณก่อนอายุได้ ซึ่งวิธีที่จะทำได้คือการ “คุยกันในครอบครัว” รวมถึงการมีบัญชีออมทรัพย์ฉุกเฉินที่ต้องมั่นใจว่าหากเกิดเรื่องอะไรจะสามารถนำเงินส่วนนั้นไปใช้ทันที
.
ในสังคมเอเชียเรามักมีความคิดที่ว่าการมีลูกจะทำให้มีคนเลี้ยงดูตอนแก่เฒ่า ดังนั้นหากคุณอยากอยู่สบายในชีวิตบั้นปลาย การสร้างนิสัยออมเงิน วางแผน และจัดการชีวิตในระยะยาวจะช่วยทำให้คุณหมดห่วงในช่วงวัยนั้นได้
.
2. สร้างนิสัยการลงทุน
.
การออมเงินเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณอุ่นใจเท่านั้น แต่การลงทุนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความมั่งคั่งและอาจเป็นกระดูกสันหลังของการเกษียณอายุให้กับคุณ
.
ยิ่งลงทุนเร็วเท่าไหร่ ดอกเบี้ยทบต้นที่จะเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ถึงแม้การลงทุนจะให้ผลตอบแทนที่อาจจะให้คุณเป็นเสือนอนกินอยู่ที่บ้านอย่างสบาย แต่มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ตัวคุณและคู่รักต้องแบกรับเอาไว้
.
Brian Walsh ยังให้ความเห็นอีกว่า การร่วมลงทุนของทั้งคู่จะช่วยให้สร้างความมั่งคั่งมหาศาลได้เร็วยิ่งขึ้น การเริ่มต้นแต่เนิ่น ๆ และปล่อยให้เงินของคุณเติบโตในช่วง 30 หรือ 40 ปี จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินโดยไม่ต้องถูกบังคับให้ต้องประหยัดเพื่อเก็บออมไว้ตอนเกษียณ
.
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีลูกหรือไม่มีลูก การจะมีชีวิตที่มั่งคั่ง มั่นคง หรือใช้ชีวิตในช่วงเกษียณได้สุขสบายหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับ “การวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล” มากกว่า เพราะปัจจัยอื่น ๆ ล้วนเป็นเพียงปัจจัยภายนอกเท่านั้น
.
ทุกความสำเร็จล้วนเกิดจากการเริ่มต้น อิสรภาพทางการเงินก็เกิดจากการวางแผนเช่นกัน
.
.
.
เรียบเรียงโดย 100WEALTH
ผู้เขียน Jirantanin S.
.
.
อ้างอิง
– https://cnb.cx/37CWdpq
– https://bit.ly/3EO8Jyh