วางแผนการเงินร่วมกับคนรัก ไม่มีความลับเรื่องเงินระหว่างกันจะทำให้ความสัมพันธ์แข็งแรงขึ้น! ความสำเร็จเร็วขึ้น

ความรักกับการเงิน บางคนอาจไม่กล้านำมาพูดถึง หรือคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่านำมาอยู่ด้วยกันได้
ใช่แล้ว…ความรักอาจทำให้คุณมีกำลังใจในการทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ แต่อีกด้านหนึ่ง เรื่องเงินอาจเข้ามาฉุดรั้งทำให้ชีวิตคู่ของคุณล้มเหลวไปเลยก็ได้ อย่างกรณีที่เราเห็นไม่ว่าจากกระทู้พันทิป หรือประเด็นตามโซเชียลมีเดียที่มีคนออกมาระบายที่ชีวิตรักพังไม่เป็นท่า เพราะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง (ร้ายแรงพอๆ กับมือที่สามเลย)

ไม่ว่าจะเป็น ‘สายเปย์จนเคยตัว’ หรือ ‘กระเป๋าใครกระเป๋ามัน’ (จนอีกฝ่ายมองว่าไม่แฟร์) หรือ ไม่ช่วยให้เงินงอกเงยแต่ทำเงินร่อยหรอ
ฉะนั้น เมื่อคุณเริ่มต้นชีวิตคู่แล้ว ถ้าอยากพัฒนาการเงินและความสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน เรื่องการเงินต่อไปนี้คือ สิ่งที่ต้องนำมาปรับใช้ในชีวิตคู่

1. การคุยเรื่องเงินกับคนรักไม่ควรเป็นเรื่องต้องห้าม
 ในความสัมพันธ์บางคู่นั้น แต่ละคนสามารถคุยกันเรื่องสัพเพเหระได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังบน Netflix ที่อยากจะดูด้วยกัน สถานที่ที่อยากไปเดต อาหารที่อยากกิน หรือเรื่องอื่นๆ แต่พอพูดถึงเรื่องเงินอาจเกิดอาการอึดอัด และบางคนก็รู้สึกว่าเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวด้วย การพูดคุยกันระหว่างคู่รักเรื่องเงินๆ ทองๆ ควรเป็นหัวข้อธรรมดาที่หยิบยกขึ้นมาคุยได้ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละฝ่ายว่าเป็นอย่างไรและช่วยกันหาทางออกได้ และถ้ามันเป็นเรื่องยากที่จะคุยเรื่องนี้ระหว่างคนรักของคุณ บทความ ‘How To Talk To Your Partner About Money For The First Time’ (วิธีการคุยเรื่องเงินกับคนรักของคุณเป็นครั้งแรก) จากเว็บไซต์ www.bustle.com ได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจไว้ประการหนึ่งเกี่ยวกับการคุยเรื่องเงินกับคนรักนั้น ให้คุยเรื่องนี้เมื่ออีกฝ่ายพร้อม (เพราะบางคนอาจมีนิสัยไม่ชอบคุยเรื่องเงินกับคนอื่น) อาจเริ่มจากการคุยกันด้วยหัวข้อเบาๆ ก่อน ไม่ควรทำให้คนรักรู้สึกว่าเหมือนถูกคุกคาม หรือถูกตัดสิน เช่น ‘ตัวเองไม่มีเงินเหลือก็เพราะว่า cf ทั้งวันไง’ แบบนี้ก็ไม่ควรพูดอย่างยิ่ง จะทำให้บานปลายไปใหญ่ เพราะการที่คุณพูดจาเหน็บแนม ก็ทำให้คนรักของคุณรู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดคุยเรื่องเงินกับคุณ

2.อย่ามีความลับเรื่องเงินระหว่างกัน
มุขซื้อมา 50,000 แต่บอกแฟนว่าเพื่อนให้มาฟรี หรือการแอบ cf ของและให้ไปส่งที่ทำงาน อาจฟังดูตลก แต่ถ้ามองอีกมุม มันคือการโกหกนั่นเอง (พ่อบ้าน / แม่บ้านใจกล้าร้องไห้ไปแล้ว) ในช่วงปี 2017 Ramsey Solutions บริษัทให้คำปรึกษาด้านการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่กว่า 1,000 คน เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมและทัศนคติในการใช้เงินของแต่ละบุคคลรวมไปถึงระหว่างคู่สมรสว่ามีการสื่อสารและพูดคุยเรื่องเงินอย่างไร จากการศึกษานี้พบว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างนั้นทะเลาะกับคู่รักของตัวเองเรื่องเงินก็เพราะว่าเก็บเรื่องซื้อของต่างๆ ไว้เป็นความลับ! เพราะการมีความลับไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือเรื่องใดต่อกันนั้นสร้างความสั่นคลอนในความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างมาก ดังนั้น ทั้งสองคนต้องเปิดอกคุยกันและพยายามเข้าใจนิสัยการใช้เงินของแต่ละฝ่ายที่ต่างกันด้วย จากนั้นก็ต้องค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากัน อาจเจอกันคนละครึ่งทาง เพราะถ้าความสัมพันธ์ของคนสองคนเริ่มจะจริงจังและเริ่มสร้างอนาคตด้วยกัน ต้องค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากัน การที่อีกฝ่ายจริงจังเรื่องเงิน แต่อีกฝ่ายสุรุ่ยสุร่ายก็อาจไปไม่ถึงฝันได้ เพราะรูปแบบและนิสัยการใช้เงินต่างกันอย่างสุดขั้วนั่นเอง!

3.ช่วยกันวางแผนทางการเงิน
สุภาษิตของแอฟริกากล่าวไว้ว่า ‘If you want to go fast, go alone. If you want to go far, go together ‘ไปคนเดียวไปได้ไว ถ้าอยากไปให้ไกลต้องไปด้วยกัน’ (คำสุภาษิตแอฟริกัน) ก็สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตคู่ได้เช่นกัน ซึ่งมันจะดีกว่าไหม ถ้าคุณและคนรักของคุณร่วมกันวางแผนทางการเงิน ในหนังสือเรื่อง ‘Smart Couple Finish Rich’ ที่เขียนโดย David Bach ได้เล่าถึงเคสลูกค้าที่เป็นคู่รักเข้ามาปรึกษาเรื่องการวางแผนการเงิน และพบว่าคู่ที่ได้เกษียณอายุงานเร็วกว่ากำหนดและหมดกังวลเรื่องเงิน มีพร้อมทั้งทรัพย์สินและไม่มีหนี้สินนั้นมีการวางแผนทางการเงินร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตคู่ พวกเขามีการพูดคุยเรื่องเงิน และทำงานกันเป็นทีม เป็นหนึ่งเดียวกัน

ดังนั้น ถ้าอยากให้ทั้งสถานะทางความสัมพันธ์และการเงินแข็งแรง ก็ต้องเริ่มคุยเรื่องการเงินกับคนรักบ้าง ขั้นแรกอาจไม่ต้องถึงขั้นเปิดบัญชีร่วม อาจเริ่มจากการลิสต์ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของแต่ละคนมาแชร์กัน หรือการแชร์เป้าหมายทางการเงินของแต่ละคนก็ได้