“คนทำธุรกิจ” สรุปยอดกำไรแค่รายเดือน “คงไม่ทัน” ตอนนี้คือยุคที่ ธุรกิจต้องวางแผนกันแบบ “รายวัน”

กว่า 76 ล้านคนในต่างประเทศที่ติดโควิด-19 และธุรกิจหลายหมื่นบริษัทต้องพังลงไป ทำให้เกิดความสงสัยไปนั่งศึกษาดูว่า แล้วคนทำธุรกิจในต่างประเทศที่อยู่รอดได้ในช่วงนี้ เขาทำกันยังไง? เขารอดได้ยังไง? สิ่งที่ได้ค้นพบมีหลายเทคนิคแต่มีอันนึงที่น่าสนใจมากและนำไปใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเพียงร้านค้าหรือโรงงาน ก็ใช้ได้กับทุกสเกลธุรกิจ สิ่งที่ว่านั้นก็คือ ให้วางกลยุทธ์ไว้ว่า “หากบริษัทจะอยู่รอดไม่เกินเดือนนี้ วีคนี้ หรืออีก 1-3 วันข้างหน้านี้ เราต้องดูอะไรบ้าง และต้องทำอะไรเลยทันทีบ้าง?”

Cousins Subs ร้านแซนด์วิชชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาจำนวนมาก ได้เปิดเผยกลยุทธ์เด็ดที่ใช้ในการเติบโตและรอดได้ในทุกวิกฤต คือ ในทุก ๆ วันนั้นแต่ละสาขาจะมีการ “คำนวณเงินวันต่อวัน” เพื่อจะได้รู้ว่ามีเงินทั้งหมดเท่าไร มีสถานะทางบัญชียังไงบ้าง ทำแบบให้ติดเป็นนิสัยทั้งผู้บริหารไปจนถึงพนักงาน ที่พร้อมปรับตัวเพื่อเตรียมไว้เผื่อในวันที่ร้านอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด จะได้รู้ว่าควรทำอะไรต่อ และสามารถเปลี่ยนแปลงปรับตัวได้ในทันที

ในช่วงแรก ๆ ที่พึ่งเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ เจ้าของธุรกิจ SME นั้นจะดูต้นทุน กำไร กันทุกวัน เพราะกลัวว่าธุรกิจจะไปไม่รอด แต่พอทำธุรกิจไปซักพัก หรือธุรกิจยิ่งโตขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ จะสรุปผลกันแค่สิ้นเดือน หรือหน่วยไตรมาส ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ช้าไปแล้วสำหรับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนี้ ธุรกิจจะไปไม่รอดถ้ายังไม่เปลี่ยนสู่โลกดิจิทัลที่เร็วและร้อนแรงด้วยหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เทคนิคที่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีกับทุกธุรกิจ ทุกสเกล สรุปได้ 3 ข้อใหญ่ ๆ ดังนี้

เทคนิคการหา “ภาพรวม” เพื่อยกการบริหารธุรกิจที่ทำได้แบบเรียลไทม์ เกิดผลการเปลี่ยนแปลงรายวันได้ในทันที เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ความไม่แน่นอนในช่วงนี้

1) มองหาเพียงรายได้นั้น คือการมองแบบเก่า การมองแบบใหม่ ให้มองหา “การรับเงิน” ว่าได้รับเงินมาจากทางไหนบ้าง

หากอยากมองเห็นการเงินแบบภาพรวม เข้าใจถึงรายได้ ผลกำไร ที่จะนำไปตีความต่อยอดได้ทันที ในยุคก่อนหน้านี้ คำว่า กำไร รายได้ จะถูกมองหาเป็นหลักทันที แต่สิ่งเหล่านี้นั้นมีข้อจำกัดของเรื่องคำและการตีความ แถมยังทำให้ดูยุ่งยากและซับซ้อน ในยุคใหม่ ๆ นี้เราจึงควรมองหาด้วย “การรับเงิน” แทน จะทำให้เข้าใจและตีความต่อยอดได้มากกว่า วิธีการมองหาที่มาของการรับเงิน เจ้าของธุรกิจ SME นั้นต้องตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า ทำไมบริษัทถึงได้เงินตรงนี้มา พยายามมองแบบเป็นภาพรวมง่าย ๆ ไล่หาไปว่า เพราะสินค้าตัวไหนบ้าง หรือบริการทางไหน ที่ทำให้เงินเข้ามา และพยายามคิดหาต่อว่า ทำไมคนถึงซื้อสิ่งนี้และยอมจ่ายสิ่งนี้ มีอะไรที่ควบคู่การที่จะทำให้ได้รับเงินเข้ามาอีก “การคิดตีความแบบต่อยอด” จะคิดได้ดีขึ้นเมื่อมีข้อมูลในมือครบถ้วน เมื่อมีข้อมูลในมือจะทำให้ตีความต่อยอดได้ดีกว่าว่า มีโอกาสเป็นจริงได้หรือไม่ 

สิ่งที่คนทำธุรกิจหรือเจ้าของธุรกิจ SME หลายคนเจอบ่อย ๆ คือ “ความไม่ต่อเนื่องของข้อมูล”  ไม่รู้ว่ารับเงินจากใคร ผ่านช่องทางไหน ไม่รู้ว่าอะไรขายได้บ้าง เวลาจะตรวจสอบและสรุปที ต้องนั่งไล่ไปทีละรายการ ไล่ดูจาก Statement และมีบางรายการไม่ได้แสดงผลแบบเรียลไทม์ ทำให้คิดว่าไว้สิ้นเดือนดีกว่าค่อยสรุปยอดแบบทีเดียว ด้วยวิธีบริหารแบบนี้จึงมีหลายครั้งที่อาจจะปรับตัวไม่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน การบริหารธุรกิจแบบรายวันจึงควรมีเครื่องมือที่สามารถบอกถึงการรับเงินได้ทันที

ยกตัวอย่างหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดีนั่นก็คือ New Digital Business Management Platform ที่ชื่อว่า “Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ที่ช่วยให้คุณควบคุมธุรกิจได้ในที่เดียว โดย TMB ได้ออกแบบและพัฒนาจากความต้องการของลูกค้าธุรกิจจริง ๆ ด้วยฟีเจอร์เด่นอย่าง Real-Time Update ที่ช่วยแสดงข้อมูลรายการครบถ้วนแบบเรียลไทม์ เหมือนยกทั้งธุรกิจมาไว้ในที่เดียว ทั้งตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะรับเงินจากใคร ผ่านช่องทางไหนบ้าง และมีระบบ Live Search  ค้นหารายการง่าย ๆ แค่พิมพ์ Keyword ลงไปก็จะสามารถรู้ได้ทันที ว่าเงินมาจากทางไหนบ้าง ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาหรือวุ่นวายอีกต่อไป

2) ดูรายการ “การจ่ายเงิน” ที่ควบคู่ไปกับเวลา แล้วจะเข้าใจว่าต้นทุนไหนที่ควรจ่าย หรือควรปรับเปลี่ยนทันที 

หลังจากมองหาการรับเงินแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการดูว่าจะทำหรือต่อยอดยังไง เพื่อให้ได้เงินเหล่านั้นมา เมื่อไรพอพูดถึงเรื่องนี้หลายคนจะเข้าใจว่ามันคือ ต้นทุน หนี้การค้า เงินสดหมุนเวียน ซึ่งเมื่อดูไปเรื่อย ๆ เจ้าของธุรกิจหลายคนจะรับรู้ได้ว่ามันคือ “การทำรายการที่ยุ่งยาก” เพราะต้องมานั่งคัดนั่งดู ต้องมานั่งไล่เรียง วิธีการมองแบบภาพรวมที่จะทำให้วางแผนได้ง่ายขึ้น จึงควรคิดหาแค่ว่า “การจ่ายเงิน” ต้องจ่ายไปให้ใครบ้าง และควบคู่ไปด้วยในแง่ของ ”เวลา” คือมีเวลาเหลืออีกเท่าไรที่จะถึง “ดีลจ่าย” มองแค่นี้พอ เพื่อให้เห็นไอเดีย หรือการวางแผนที่จะทำต่อ แล้วค่อยไปลงลึกเป็นส่วน ๆ ไป

ตัวอย่างการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ด้วยจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจง่ายและดูข้อมูลได้ทันที รวมถึงเหมาะกับฟังก์ชั่นงานของผู้ใช้แต่ละคน ด้วย Quick Menu ที่สามารถจัดวางเมนูที่ใช้งานบ่อยได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นหัวหน้า HR หรือหัวหน้าฝ่ายการเงิน คุณก็สามารถเลือกปรับเมนูที่ใช้บ่อยได้ตามความเหมาะสม และยังมี Payment Assistant ตัวช่วยแนะนำประเภทการโอน-จ่ายที่เหมาะสมกับเงื่อนไขของผู้รับ จำนวนเงิน และวันที่มีรายการมีผล รวมถึง Smart Import ที่สามารถทำรายการจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบไม่ต้องรอค้างไว้ โดยสามารถทำรายการอื่นได้ในขณะที่ระบบประมวลผลอัพโหลดไฟล์บนระบบไปด้วยได้

3) บริหารเงินแบบยุคใหม่คือการเห็นภาพรวมเพื่อ “ต่อยอด” จะได้รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ในช่วงเวลานั้น ๆ

เมื่อรับรู้ การรับเงิน การจ่ายเงินแล้ว สิ่งต่อมาคือ “การเห็นภาพรวม” สิ่งสำคัญในขั้นนี้คือข้อมูลที่ได้นั้นต้อง “เรียลไทม์” และเห็นภาพรวมทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ซึ่งการจะทำให้ข้อมูลนั้นเรียลไทม์ได้ ระบบต้องมีการเชื่อมต่อตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อส่งทั้งรายงานตัวเลขในแง่ของเหตุผล และจัดทำให้เป็นรูปแบบที่เข้าใจ เช่น กราฟแบบต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนเพื่อใช้ในการตัดสินใจ และต้องมีการป้องกันความสับสนต้องเลือกช่วงเวลาที่อยากจะวิเคราะห์ได้ด้วย เพราะในบางจังหวะเวลานั้น การทำแบบเดิม ๆ กลยุทธ์แบบเดิม ๆ อาจจะไม่ได้ผล การเลือกเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์ได้ จะทำให้เห็นภาพรวมเฉพาะของเหตุการณ์นั้น ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจได้ชัดและง่ายกว่า ในช่วงที่สถานการณ์เปลี่ยนไปทุกวัน เราควรทำอะไร? หรือหากเจอผลกระทบอะไร ควรรับมือยังไง? การวางแผนที่จะนำไปสู่ชัยชนะ จึงควรมีข้อมูลที่คาดการณ์หรือผิดไปจากความจริงให้น้อยที่สุด เมื่อธุรกิจอยู่ตัวระดับนึง เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารส่วนใหญ่นั้น มักจะใช้ความเคยชินในดำเนินธุรกิจและวางแผนกันแบบระยะสั้น ๆ เพราะคิดว่าทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม อาจจะมีช่วยกระตุ้นยอดขายนิดหน่อย น้อยรายที่จะมีการเตรียมรับมือแบบระยะยาว ดังนั้นเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดมากระทบ จึงปรับตัวไม่ทัน 

วิธีแก้คือ ต้องเริ่มวางแผนใช้ Digital Business Management Platform อย่าง Business ONE มาช่วยเลยทันที จะทำให้แก้ไขและตัดสินใจแนวทางได้ดีกว่ามาก เพราะมีข้อมูลตัวเลขซัพพอร์ตในทุกความคิดเลยทันที และยังช่วยตรวจสอบติดตามแบบที่เหนือกว่ามนุษย์จะทำได้อีกด้วย

สำหรับ Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ จะมีฟังก์ชั่นสรุปข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่เรียกว่า Smart Dashboard คือบริหารการเงินแบบเห็นภาพรวมครบจบในที่เดียว อยากเช็คเมื่อไรก็รู้ได้ทันที ให้เจ้าของธุรกิจดูภาพรวมการรับจ่ายเงินในรูปแบบกราฟตามช่วงเวลาที่คุณต้องการ เพื่อเอาข้อมูลไปคิดต่อยอดได้ และมีระบบจัดคิวมองเห็นรายการที่รอการอนุมัติจากคุณช่วยให้จัดการชีวิตได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่น Open API ที่เชื่อมต่อข้อมูลไปยังระบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น ระบบ HR ทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจได้จาก Business ONE ในที่เดียว บริหารได้ด้วยคอมเครื่องเดียวด้วยข้อมูลที่เรียลไทม์ ที่จะแสดงถึงส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ ให้คุณใช้ในการวางแนวทางที่นำไปสู่การตัดสินใจหรือปรับแผนต่าง ๆ ได้ทันทีท่วงที ให้คุณบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ไม่ใช่แค่พ้นวิกฤต แต่ยังได้เจอโอกาสทำกำไรใหม่ ๆ อีกด้วย

ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนของเหตุการณ์ในปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก “ข้อมูลแบบเรียลไทม์และการเห็นภาพรวม” จากระบบเดียวนั้น คือตัวช่วยที่จะทำให้ธุรกิจของคุณบริหารได้แบบรายวัน ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์หรือปัญหาหนักก่อน ถึงตอนนั้นอาจจะแก้หรือปรับกลยุทธ์ของธุรกิจได้ไม่ทัน ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่ได้ค้นพบหลังจากไปศึกษาเทคนิคที่เจ้าของธุรกิจในต่างประเทศใช้กัน เพราะมีหลายเคส หลายร้านค้า จนไปถึงหลายบริษัทที่ยังคงอยู่รอด นอกจากนี้การมีตัวช่วยที่ดีแบบ Business ONE จะช่วยให้คุณมีข้อมูลการวางแผนในระยะยาวเพื่อต่อยอดธุรกิจออกไปได้ไกลขึ้นอีกด้วย

หากชอบแนวคิดใหม่ของผู้นำด้าน Digital Banking อย่าง TMB ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับแค่ลูกค้าบุคคล แต่ยังพัฒนา Digital Solution ใหม่ ๆ อย่าง Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ มาเพื่อลูกค้าธุรกิจอย่างแท้จริงเพื่อให้บริหารธุกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ TMB ได้ออกแบบ Business ONE จากความเข้าใจในการทำธุรกิจและการใช้งานของลูกค้าจริง ๆ  และที่สำคัญ คือ TMB ไม่ได้ต้องการให้เทคโนโลยีเข้ามาแทนคน แต่ TMB เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ลูกค้าธุรกิจบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะควบคุมธุรกิจทุกอย่างก็คือ คนหรือเจ้าของธุรกิจอยู่ดี

ดิจิทัล AI ทางธุรกิจเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วย รวบรวมและแสดงข้อมูล ส่วนต่อมาสิ่งที่สำคัญก็คือ “คุณ” เจ้าของธุรกิจที่จะตัดสินใจทำอะไรยังไงต่อนั่นเอง…

ถ้าไม่อยากพลาดตัวช่วยทางธุรกิจที่เข้าใจคุณและเข้าใจธุรกิจได้อย่างดี อย่าง “Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tmbbank.com/paihaitueng100lan/fb  หรือติดต่อ Corporate Call Center  โทร. 02-643-7000