เมื่อการบูสต์โพสต์ไม่ได้ช่วยสร้างยอดระยะยาวอีกต่อไป Social Commerce ช่วยคุณได้

ข้อดีของการขายของออนไลน์ ถึงไม่มีหน้าร้าน ต้นทุนต่ำ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่เพิ่มขึ้นตลอด ทั้งคู่แข่งหน้าใหม่ ๆ การโดนตัดราคา หรือการต้องพึ่งพา “การยิงโฆษณาเป็นหลัก” โดยในช่วงหลัง ๆ มานี้ ร้านค้าหลายร้าน ทำให้ลูกค้ารู้จักผ่าน Social Media จะพึ่งพาการบูสต์โฆษณาจากแพลตฟอร์มเจ้าใหญ่ ๆ เช่น Facebook, IG เป็นหลักเพื่อหา “ว่าที่ลูกค้า” โดยปิดการขายได้บางส่วน ส่วนที่เหลือก็ไปปิดผ่านเครื่องมือแบบ LINE หรือผ่านทางร้านออนไลน์ Marketplace ยอดนิยมต่าง ๆ การขายของออนไลน์เลยจะเป็นวัฎจักรแบบนี้  

วิธีการขายแบบเดิมนี้ได้รับความนิยมมานาน และค่อนข้างได้ผลถ้าดูแบบภาพรวม แต่เมื่อทำไปซักพักแล้วหรือร้านเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว จะพบว่า มีขั้นตอนเยอะมากกว่าจะปิดการขายได้ และต้องดูแลหลายช่องทาง การตอบลูกค้าช้าไป ไม่ว่าช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ลูกค้าจะถือว่าเป็นร้านไม่มีความน่าเชื่อถือทันที  ในขณะเดียวกันคู่แข่งก็ทำตามนี้ ทำให้ยอดขายหลัก ๆ จึงวัดกันที่ ใครยิงโฆษณาได้มากกว่า “พอบูสต์โพสต์ยอดก็มา พอไม่บูสต์ยอดก็ไม่มา”

ข้อมูลจาก Thailand Digital Stat 2022 โดย We Are Social ได้เก็บข้อมูลสรุปภาพรวมการใช้โซเชียลมีเดียของคนไทยในปี 2022 พบว่าคนไทยหนึ่งคนเล่นโซเชียลมีเดียโดยเฉลี่ย 7.6 แพลตฟอร์ม ดังนั้นการทุ่มการตลาดไปกับเพียงช่องทางใด ช่องทางหนึ่ง อาจเป็นทางเลือกที่เสี่ยงเกิดไป  ไหนจะต้องเจอกับการตัดราคากันหรือลดแลกแจกแถม ปัญหานี้ไม่ว่าจะไปตลาดไหน ขายสินค้าราคาเท่าไร ก็ได้เจอตลอด

จากประสบการณ์ของผู้เขียนเคยขายของออนไลน์มา 4-5 ปี จากออนไลน์จนต่อยอดมีหน้าร้านออฟไลน์ในห้างของตัวเอง ก็ยังเจอปัญหานี้เช่นกัน  และมองหาทางแก้ปัญหาทั้งในเชิงสินค้า และการวางกลยุทธ์ จนได้ค้นพบวิธีแก้ดี ๆ ที่ช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้แบบไม่ต้องพึ่งแค่โฆษณา ซึ่งพอบูสต์โพสต์ก็ทำให้ประสิทธิภาพได้ผลมากขึ้นกว่าเดิม

วิธีที่ว่านั่นคือ การขายผ่าน Social Commerce โดยใช้ LINE SHOPPING ควบคู่ไป เป็นวิธีที่เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวมแล้ว พ่อค้าแม่ค้าหลายเจ้ายังไม่รู้ ทำให้คู่แข่งน้อยและได้ผลดีมากใช้ได้ในทุกสินค้า

เป็นน่านน้ำหาลูกค้าแห่งใหม่ ที่ยังคงได้ผลถึงในตอนนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสการขายให้เหนือกว่าคู่แข่ง ไม่ต้องไปนั่งปวดหัวเรื่องตัดราคา เอามาเวลามานั่งคิดงานขายใหม่ ๆ หาสินค้าใหม่ ๆ มาขายดีกว่า 

ใช้ LINE SHOPPING เปลี่ยนจากการ “ส่งสาร” เป็น “สื่อสาร” ทางออกใหม่ของคนขายออนไลน์ 

ในแบบเดิม ๆ การขายคือการทำคอนเทนต์โฆษณายิงไปรอไว้ ให้คนสนใจคลิกเข้ามา เป็นวิธีแบบ “ส่งสาร” แบบ One way ซึ่งในยุคปัจจุบันที่คอนเทนต์ล้น วิธีนี้เลยได้ผลน้อย อัตราการปิดการขายได้ต่ำ เมื่อเทียบกับวิธีใหม่ที่ต้องเปลี่ยนให้คอนเทนต์ไม่ใช่การไปรอให้สนใจ แต่ต้อง “สื่อสาร” แบบลงลึกมากขึ้นเพื่อมัดใจลูกค้า การขายผ่านแชทเป็นรูปแบบการขายที่มีการสื่อสารระหว่างผู้ซื้อผู้ขายแบบ Two way ทำให้โอกาสในการปิดการขายสูงกว่า ซึ่งจากข้อมูลของ Nielsen การขายแบบนี้มีโอกาสในการปิดการขายได้สูงถึง 15 เท่าจากการขายแบบทั่วไป ซึ่ง LINE SHOPPING เป็นเครื่องมือที่ช่วยร้านค้าให้ขายผ่านการสื่อสารในรูปแบบแชทได้ทรงพลังมากขึ้น

จุดเด่นของ LINE SHOPPING คือการเอาจุดเด่นของการขายผ่านแชทของ LINE Official Account มารวมกับเครื่องมือของ LINE SHOPPING ที่ช่วยในการจัดการการขายผ่านแชทได้สะดวก ทั้งระบบจัดการหน้าบ้าน เช่น การออกออเดอร์ผ่านแชท หรือระบบหลังบ้านการจัดการสต๊อก ดูรีพอร์ตการขาย เมื่อสองอย่างนี้รวมกันแล้ว ทำให้ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าไทยที่เน้นการขายผ่านแชทอย่างมาก

เพราะผลสำรวจจาก We Are Social บอกว่า คนไทยช้อปผ่านมือถือติดอันดับโลก และนิสัยการซื้อสินค้าของคนไทยนั้น จะชอบแชทติดต่อกับทางร้านค้าโดยตรงเพื่อความมั่นใจในตัวสินค้าและร้านค้า และด้วยพฤติกรรมสามารถปิดการขายในแชทได้เลย ไม่ชอบไปกรอกข้อมูลให้ยุ่งยาก โดยจุดที่มาช่วยซัพพอร์ตให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้แบบชัดเจนเลยคือ มีการเก็บฐานลูกค้าให้ด้วย เพื่อใช้ในการต่อยอดได้ อันนี้เป็นจุดดีมาก ๆ ของเครื่องมือนี้ เพราะจะได้เอามารวมกันที่เดียวจบ ดูแลง่าย พร้อมมีแหล่งเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์ทีเดียว โดยมีจุดเด่นดังนี้

สรุปภาพรวมจุดเด่นของ LINE SHOPPING โอกาสใหม่ในการสร้างธุรกิจแบบต่อยอดได้ในระยะยาว :

  • พร้อมสนับสนุนทุกการขาย เพราะร้านค้าส่วนมากมี LINE OA อยู่แล้วหรือถ้ายังไม่มี ก็สามารถเปิดได้อย่างง่าย ๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าคุยผ่านทางนี้อยู่แล้ว เมื่อเชื่อมต่อเครื่องมือจัดการหลังบ้านของ LINE SHOPPING ที่ชื่อว่า MyShop ร้านค้าจะได้รับเครื่องมือที่ช่วยซัพพอร์ตการขายผ่านแชทได้ดียิ่งขึ้น มีทั้งเครื่องมือการออกออเดอร์ผ่านแชท Notification ส่งในแชทเพื่ออัพเดทสถานะสินค้า หรือระบบการจัดการหลังบ้าน ทั้งการบริหารสต๊อก จัดการออเดอร์ ดูรีพอร์ตยอดขาย รวมทั้งมีระบบการเชื่อมต่อระบบชำระเงินทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต เหมือนเป็นการติดปีกให้ร้านค้าที่ขายผ่านช่องทางนี้อยู่แล้ว ให้ปิดการขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
  • ปลดล็อคข้อจำกัดเดิม ๆ ที่ร้านค้าต้องคอยหาลูกค้าใหม่ ๆ และไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มในการหาลูกค้าใหม่ตลอด  LINE SHOPPING ช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าของร้านค้าเอง และสร้างการซื้อซ้ำจากกลุ่มลูกค้าของร้านค้า ด้วยการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้ร้านค้าสะสมฐานลูกค้าได้ง่าย เช่น ระบบการเพิ่มเพื่อนอัตโนมัติสะสมฐานลูกค้าใน LINE OA หลังลูกค้ากดซื้อของใน LINE SHOPPING และระบบการติด Chat Tag ลูกค้า เพื่อแบ่งประเภทกลุ่มลูกค้า ทำให้ร้านค้าสามารถคอนโทรลการสื่อสาร การสร้างแบรนด์ การทำการตลาดแต่ละกลุ่มลูกค้าได้
  • หน้าร้านสวย สร้างแบรนด์ได้ ร้านค้าสามารถสร้างความโดดเด่นได้ด้วยการสร้าง branding ที่สามารถแสดงตัวตนได้อย่างชัดเจน อย่างการทำ Rich Menu, Rich VDO, Rich Message ทั้งเรื่องรูปและภาพคอนเทนต์ของร้านแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยสร้างความแตกต่าง ให้ไม่ต้องไปแข่งขันแค่เพียงเรื่องของราคาสินค้า ซึ่งอันนี้จะเป็นผลดีของร้านค้าในการสร้างกำไรในระยะยาว
  • นอกจากการปิดการขายได้ง่ายกว่าด้วยการเน้นการขายผ่านแชทแล้ว LINE SHOPPING ยังมี FREE Benefits ช่วยสนับสนุนทุกร้านค้า เช่น แจกฟรี LINE POINTS (1 point = 1 บาท) ช่วยให้ร้านค้าปิดการขายได้ง่ายประหนึ่งเป็นโปรโมชั่นของร้านค้าเอง และสร้างโอกาสการซื้อซ้ำจากการที่ลูกค้านำ LINE POINTS ที่ได้ มาใช้แทนเงินสดซื้อสินค้าภายในร้านได้อีก
  • ที่สำคัญ LINE SHOPPING ไม่เก็บค่าบริการ ไม่เก็บค่า GP จากร้านค้า ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หมัดเด็ด “ปิดการขาย” ด้วย “ LINE POINTS ” สร้างจุดร่วมโปรโมชั่น ให้ลูกค้ารู้สึกถึงมูลค่าที่มากกว่า แบบปิดการขายได้เลยทันที

ช่องทางการขายที่ดี ต้องมีส่วนส่งเสริมลูกเล่นที่ช่วยให้ปิดการขายให้ได้เลยทันที เพราะเมื่อลูกค้าเข้ามาถึงแล้วอาจจะอยู่ในช่วงพิจารณาหรือเปรียบเทียบ หากมีส่วนเสริมช่วยสร้างมูลค่าแบบ การสะสมแต้ม LINE POINTS (1 point = 1 บาท)  ที่เป็น FREE Benefits จาก LINE SHOPPING ที่ช่วยสนับสนุนร้านค้า ก็จะเป็นจุดเด่นที่ช่วยสร้างมูลค่าให้เพิ่มมากขึ้นในมุมลูกค้าเอง 

ลองคิดถึงร้านที่สินค้าเหมือนกัน ราคาพอ ๆ กัน แต่ร้านนึงมีให้สะสมแต้มนำไปใช้ต่อที่ร้านไหนก็ได้ กับอีกร้านมีแค่ซื้อแล้วจบไป ลูกค้าก็จะเลือกร้านที่มีแต้มให้สะสมต่อแน่นอน ซึ่งตรงกับผลสำรวจของ Digital Stat 2022 ที่หาปัจจัยที่กระตุ้นให้คนอยากซื้อพบว่า ระบบสะสมแต้ม มีผลให้คนอยากซื้อมากถึง 25.9% 

นอกจากนั้นในมุมร้านค้าเองจะได้ประโยชน์ที่เพิ่มจากการปิดการขายได้ง่ายกว่าแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสการซื้อซ้ำ โดยข้อดีของการมีตัวแทนมูลค่าแบบ LINE POINTS จะช่วยให้ร้านค้าแบบเรา ๆ ออกแบบโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้น เช่น “คูปองส่วนลด” มีผลมากถึง 49.2% ช่วยให้ปิดการขายได้ มากกว่าแค่ลดราคาเฉยๆ ผลสำรวจจาก Digital Stat 2022

LINE SHOPPING ที่เสริมด้วย LINE POINTS จะทำให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งทำให้การซื้อขายสมบูรณ์แบบ ในมุมลูกค้าจะสะดวกกว่าในแง่ของการใช้งาน ที่ไม่ต้องซื้อขายแบบ manual (โอนเงิน ส่งสลิป ส่งที่อยู่) สามารถสั่งซื้อได้เลยทันที และเมื่อร้านค้าเสริมด้วย LINE Ecosystem LINE OA, และ Rabbit LINE Pay ก็จะเป็นระบบที่สมบูรณ์ตอบโจทย์ได้ทั้งลูกค้าและร้านค้า ดูแลง่าย สะดวก แบบครบจบในที่เดียว ซึ่งที่ผ่านมาได้ตอกย้ำความสำเร็จ จากจำนวนร้านค้า LINE SHOPPING ที่ปัจจุบันมีมากถึง 370,000 ร้านค้า

ทั้งหมดนี้คือ วิธีใหม่ที่ช่วยพาพ่อค้าแม่ค้าออกจากวัฎจักรการขายของออนไลน์แบบเดิม ๆ ทั้งช่วยลดภาระและตรงกับพฤติกรรมลูกค้า สร้างโอกาสการขายได้ยอดใหม่ ๆ ไม่ต้องปวดหัวสู้กับเพียงเรื่องทางราคา เพราะสามารถ “สร้างการสื่อสาร” “สร้างแบรนด์” “สร้างการซื้อซ้ำจากฐานลูกค้าเดิม” ต่อยอดในส่วนต่าง ๆ ได้ จากสถิติทั้งหมดจะเห็นได้ LINE SHOPPING ว่ามีการเติบโตที่รวดเร็ว มีฐานลูกค้าใหม่ ๆ จำนวนมาก และยังสามารถใช้บริการได้ฟรี พ่อค้าแม่ค้าที่ขายผ่านออนไลน์อยู่ จึงควรรีบสมัครเข้าไปจับจองน่านน้ำดี ๆ อันนี้ก่อน โอกาสใหม่ยังมีอยู่ อย่าปล่อยให้คู่แข่งได้พื้นที่ไปก่อนครับ 

  • สมัครและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ LINE SHOPPING ได้ทาง >>>> 

https://lin.ee/oxLp8Pt หรือดาวน์โหลดแอป MyShop

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมสำหรับ LINE SHOPPING ได้ที่ LINE OA @linemyshop