เมื่อรัฐบาลสิงคโปร์กำลังเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเต็มกำลัง หลังจากนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้รับอำนาจเต็มจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้มีนโยบายใหม่ๆ โดยเฉพาะนโยบายทางเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลประเมินว่าเศรษฐกิจโลกหลังสถานการณ์โควิด-19 จะเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยหลักการของรัฐบาลชุดใหม่คือต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด ประกาศมาตรการทางเศรษฐกิจที่สำคัญภายใน 1 เดือน หลังรัฐบาลชุดใหม่เข้ามารับตำแหน่ง นายชาง ชุน ซิง ระบุว่า วิกฤติในครั้งนี้หากมัวแต่รอโควิด-19 หายไปก็จะยิ่งแย่ลง ดังนั้นรัฐบาลสิงคโปร์ต้องเร่งสร้างรูปแบบเศรษฐกิจใหม่ทันที โดยอาศัยแนวคิด 4 เปลี่ยน 3 หลักการ ดังต่อไปนี้ การเมืองโลกเปลี่ยนความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐฯ กับจีน ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของชาวสิงคโปร์ โดยเขายกตัวอย่างว่า ต่อไปนี้นักธุรกิจชาวสิงคโปร์จะประสบปัญหาติดต่อสื่อสารกับนักธุรกิจจีนด้วยโปรแกรม ‘WeChat’ ที่จะไม่สามารถติดต่อกันได้หากอยู่ในสหรัฐฯ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ จะแบนแอปฯ นี้ ซึ่งนี่ก็เป็นผลกระทบทางธุรกิจที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองระดับโลก รัฐบาลสิงคโปร์มองว่า นับจากนี้สิงคโปร์ต้องหลีกเลี่ยงการไปอยู่ที่ใจกลางความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ และต้องหาทางไม่ให้ติดกับดักความขัดแย้งเหล่านี้ โลกธุรกิจเปลี่ยน บริษัทกระจายความเสี่ยงมากขึ้นรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ชี้ว่า การกระจายความเสี่ยงอาจเป็นโอกาสของสิงคโปร์ เนื่องจากหากบริษัทเอกชนต้องการกระจายความเสี่ยงจากเดิมที่มีฐานอยู่ในประเทศจีนเป็นหลัก ก็อาจวางแผนตั้งฐานนอกประเทศจีน เช่นในอาเซียนเพิ่มเติม และจุดนี้เองที่การลงทุนใหม่ๆ อาจมาที่สิงคโปร์ได้ รูปแบบงานเปลี่ยน ใครๆ ก็ทำงานของคนสิงคโปร์ได้การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจะส่งผลกระทบต่อหลายสายอาชีพโดยตรง เช่น ที่ผ่านมาพนักงานส่วนใหญ่ต้องทำงานที่บ้าน (Work from Home) ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ...