“มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่” เพราะเงินนับวันมีแต่เสื่อมค่าจากเงินเฟ้อ แต่ทองนั้นสามารถเพิ่มพูนกำลังซื้อในระยะยาว แถมยังสามารถทำกำไรในระยะสั้นตามจังหวะตลาดได้ด้วย นอกจากนี้ “ทองคำ” ยังใช้เป็นสินทรัพย์ในการวัดระดับความมั่งคั่งได้ตั้งแต่ในระดับประเทศจนถึงระดับบุคคล ทำให้ “ทองคำ” กลายเป็นของสิ่งของที่หลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของแบบไม่ต้องสงสัย ส่วนข้อดีในการลงทุนทองนั้นมีอะไรเด่นๆบ้าง มาดูกัน
ผลตอบแทนจากการออมทองคำในปี 2019 สูงถึง 18.35%*
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทองคำเป็นที่นิยมในการลงทุน คือ แค่ซื้อไว้แล้ววางไว้เฉยๆ ก็เพิ่มมูลค่าได้ ยกตัวอย่างเช่น หากนำเงิน 10,000 บาทไปซื้อทองคำในช่วงต้นปี 2019 แล้วถือไปขายในช่วงปลายปี 2019 จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 18.35%* หรือได้เงินเพิ่มเป็น11,835 บาท แต่ถ้านำเงินจำนวนเดียวกันไปฝากในบัญชีธนาคารจะได้ดอกเบี้ยแค่ 0.2-2% โดยหากคิดในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะได้เงินเพียง 10,200 บาทเท่านั้น
ขณะที่หากออมทองคำในระยะยาวนานถึง 10 ปี ทองคำก็ยังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงเกือบ 4%** ซึ่งมากกว่าฝากประจำถึง 2 เท่า จะเห็นได้ว่าการออมทองนั้นได้ผลตอบแทนเยอะกว่า ขณะที่สภาพคล่องก็สูงไม่แพ้เงินสดเลยทีเดียว (ตัวเลขทั้งหมดเป็นเพียงการประมาณการ ผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ)
หมายเหตุ
*ผลตอบแทนคำนวนจากการนำราคาปิดปี-ราคาเปิดปี โดยอ้างอิงราคาจาก Bisnews
**ผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปี คำนวณจากผลตอบแทนระหว่างปี 2010-2019 โดยอ้างอิงราคาจาก Bisnews
ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและในภาวะสงคราม แม้ในยามที่ค่าเงินอ่อนค่า แต่ทองคำยังคงมูลค่าหรือปรับตัวขึ้นได้
เมื่อเกิดความไม่แน่นอนไม่ว่าจะเป็นในภาวะสงครามหรือวิกฤติเศรษฐกิจ จนทำให้สินทรัพย์หลายๆ ประเภทเปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างรวดเร็ว บ่อยครั้งที่มูลค่าของตลาดหุ้นและค่าเงินตกลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับปกติ แต่จะมีเฉพาะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Heaven) อย่างทองคำเท่านั้นที่ยังคงรักษามูลค่าได้เท่าเดิม หรือ อาจจะมีมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยทองคำได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจโดยเฉพาะในยามที่เกิดความไม่แน่นอนต่างๆ
มีทางเลือกในการลงทุนทองคำมากมาย ที่สำคัญสามารถเริ่มต้นลงทุนทองคำได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก
หากพูดถึงการลงทุนทองคำสมัยก่อน คือ การนำเงินจำนวนหนึ่งไปซื้อแล้วนำทองคำกลับมาเก็บจริงๆ แต่ในปัจจุบัน นอกจากการลงทุนทองคำจะมีหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณที่เหมาะสำหรับมือใหม่และผู้ที่ต้องการสวมใส่หรือถือทองจริง และ การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่าง Gold Futures และ Gold Online Futures ที่เหมาะสำหรับมืออาชีพ
การลงทุนทองยังถูกพัฒนารูปแบบไปถึงระดับที่นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางไปซื้อและการเก็บรักษา เพราะสามารถสั่งซื้อทองคำได้ผ่านระบบออนไลน์ และมีระบบที่สามารถเช็คยอดผลตอบแทนแบบเรียลไทม์ได้ทันที นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน เพราะมีน้ำหนักทองคำให้เลือกซื้อมากมาย เรียกได้ว่าลงทุนทองคำยุคนี้ปลอดภัยกว่า สะดวกกว่า แถมยังใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยลงกว่าเดิมอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่การลงทุนทองคำจะยังคงครองใจคนไทยมายาวนาน
ปัจจุบัน YLG เป็นผู้นำด้านการลงทุนทองคำทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับในระดับสากล อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญด้านทองคำด้วยประสบการณ์การนำเข้า-ส่งออกทองคำมายาวนานถึง 30 ปี หากใครสนใจเริ่มต้นลงทุนทองสามารถศึกษาการลงทุนต่อได้ที่.. http://www.ylgbullion.co.th หรือโทร 02-687-9888
#YLG #ลงทุนทองต้องYLG