แว่นทำให้มองเห็นชัด แต่วิสัยทัศน์เท่านั้นที่จะเลือกแว่นให้เหมาะกับตัวเองได้

ลุงคนหนึ่งกำลังจะเกษียณอายุการทำงานในอีก 10 ปีข้างหน้า เขาเป็นคนไม่มีครอบครัว ไม่มีทายาท แต่ทำงานมานานเลยมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง

ก่อนจะเกษียณเขาแบ่งเงินบางส่วนไปซื้อตึกแถว ซึ่งเป็นตึกแถวเก่าๆที่ทำเลไม่ดีเอาซะเลย ทั้งญาติทั้งเพื่อนต่างก็พากันว่าเขา ว่าทำไมจะซื้ออะไรไม่ดูให้ดี

เขาก็ไม่สนใจ แค่ยิ้มให้แล้วก็ไม่ตอบโต้อะไร แต่หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวสร้างทางรถไฟฟ้าประกาศว่าจะขยายพื้นที่ให้บริการไปไกลยังเขตปริมณฑล และผ่านตรงตึกแถวของลุงด้วย

บริษัทห้างร้านต่างก็ติดต่อมาหาลุงเพื่อขอซื้อตึกแถวบ้าง ขอเช่าพื้นที่เพื่อทำการค้าบ้าง สรุปลุงไม่ขายขาด แต่ปล่อยให้คนเช่าที่

หลังจากที่รถไฟฟ้าสร้างเสร็จ สิ่งอำนวยความสะดวกมาถึง ทุกอย่างก็พร้อมให้บริการ ก็ทำให้ผู้คนแถวนั้นคึกคัก

ทำเลของลุงกลายเป็นทำเลทองขึ้นมา และกลายเป็นว่าลุงมีรายได้จากค่าเช่าที่รองรับเอาไว้ในวัยเกษียณเรียบร้อย

บางที…เราชอบสงสัยคนอื่นว่าทำไมคิดอย่างนั้น ทำไมทำอย่างนี้ ทำไมทำอะไรไม่เข้าท่าเลย ทำให้เราชอบตัดสินเขาทันที

บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าที่เค้าตัดสินใจทำอย่างนี้เป็นเพราะอะไร

อย่างสิ่งที่ลุงทำไม่ใช่ความบ้าหรือฟลุ๊ค แต่เป็นเพราะลุงมี “วิสัยทัศน์” และมีข้อมูลที่ เพียงพอแล้ว

ลุงคนนี้อาจจะเก็บข้อมูล และวางแผนไว้ก่อนแล้วก็ได้ แต่เขาขี้เกียจมานั่งพูดให้ฟัง

ลุงวางแผนสร้างรายได้ในวัยเกษียณ ไม่ใช่แค่วางแผนใช้เงินเก็บ! แบบก้าวตามคนอื่น แต่ลุงก้าวนำ…หาโอกาสที่ทำให้ได้ตึกแถวในราคาที่ถูกและได้เลือกทำเลดีกว่าใคร และเป็นรายได้ที่เติบโตได้ด้วย

“วิสัยทัศน์” จึงเหมือนเป็น “กรอบแว่น” ที่ไม่ใช่แค่มีเลนส์ไว้มองให้ชัดอย่างเดียว แต่ต้องมีสไตล์เข้ากับ “คนนั้นด้วย” การเลือกจึงแตกต่างกัน

หันมาจนในกรอบแว่นของตัวเองดีกว่า ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออนาคตต่อไป “แว่นอันนี้” ยังเหมาะกับเราหรือไม่…


#วิสัยทัศน์
#ไปให้ถึง100ล้าน