เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในแคนาดารุนแรงมากขึ้น

ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อและผู้คนลดการเดินทางออกจากบ้าน
และหันมาใช้บริการซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ (Ecommerce) มากขึ้น

นาย Michael LeBlanc ที่ปรึกษาธุรกิจค้าปลีกจากหน่วยงาน Retails Council of Canada เปิดเผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (Ecommerce) ในแคนาดา (Canada) ขยายตัว 8-10% ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของหน่วยงาน Statistic Canada ที่พบว่าในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ชาวแคนาดา เพิ่มการจับจ่ายผ่านออนไลน์มากถึง 92,000 ล้านบาท เฉพาะในเดือนพฤษภาคม 63 เพียงเดือนเดียว

ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าหากเทียบกับปี 2562 เป็นเพราะผู้บริโภคหรือผู้คนหลีกเลี่ยงการออกไปจับจ่ายใช้สอย เพราะไม่ต้องการสัมผัสสินค้า และป้องกันตัวเองจากสถานการณ์วิกฤติในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม อีกด้าน รศ.ซาร่าห์ วิลเนอร์ (Sarah Wiener) นักวิชาการด้านการตลาดจาก Wilfrid Laurier University’s Lazaridis School of Business and Economics มองว่า ธุรกิจค้าปลีกมีความท้าทายมาก จากภาวะที่ลูกค้าหันไปใช้วิถีชีวิตใหม่ (New Normal)

ด้วยเหตุนี้ การแข่งขันในสมรภูมิค้าปลีกของแคนาดาจึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าท้าทาย ทั้งธุรกิจค้าปลีกโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) หรือธุรกิจค้าออนไลน์ อย่าง Amazon ที่ต่างดึงกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อใช้ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น

ล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกิดกรณีเกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้ประกอบการที่ซัพพลายสินค้าให้กับ Amazon โดยสำนักงานแข่งขันทางการค้าแคนาดา (Canada Competition Bureau) ได้ออกประกาศเปิดไต่สวน บริษัท Amazon Canada ว่ามีพฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาดในการกำหนดเงื่อนไขทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ (ข้อมูล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครโทรอนโต ประเทศแคนาดา)

หลังจากที่มีซัพพลายเออร์บริษัทต่างๆ ร้องเรียนต่อสำนักงานแข่งขันฯ ว่า Amazon ใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่รวมถึงการแข่งขัน การตั้งราคาสินค้า หรือรูปแบบการบีบให้ซัพพลายเออร์ต้องทำตามนโยบายของอเมซอน

ทั้งนี้กรณีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปออกมาว่าเป็นอย่างไร แต่หากผลการพิจารณาตัดสินออกมาว่าทาง Amazon มีความผิดในเรื่องการใช้อำนาจเหนือตลาดในการบิดเบือนตลาดหรือคู่แข่ง “Abuse of Dominace” ตามกฎหมายแคนาดา ซึ่งจะมีโทษปรับ 10 ล้านเหรียญแคนาดา หรือ 230 ล้านบาท ในครั้งแรก และหากมีคดีความอีกในครั้งต่อไปจะถูกปรับเพิ่มครั้งละ 15 ล้านเหรียญแคนาดา หรือ 345 ล้านบาท

อ้างอิง: https://bit.ly/3jyyiaN