ทำไมการคิดที่จะเก็บเงินเอาไว้เยอะๆ นั้นแหละคือ กำแพงกั้นชั้นดี ที่จะทำให้คุณห่างจาก “การมีรายได้เพิ่มมากไปในที่สุด”

คนส่วนใหญ่ชอบเลือกที่จะ “ลด” แทนที่จะ “เพิ่ม”
นั้นคือการตั้งโจทย์แห่งความคิดที่ทำให้ ฐานะตัวเองอยู่ได้แค่กลางๆ หรือหาทางไปไหนต่อไม่ได้

ยิ่งคิดที่จะ “ลดลง” รายได้ก็ยิ่งลดลงตาม
ถ้าคิดที่จะ “เพิ่มขึ้น” รายได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น

ทำไมคุณถึงอยาก “ลดรายจ่าย”
แทนที่จะคิดหาทาง “เพิ่มรายได้”

ทำไมถึงเลือกที่จะ “ลดขนาดของความฝัน”
แทนที่จะ “เพิ่มความพยายาม”

ทำไมคุณถึงเลือกที่จะ “เลิกคิด” ในสิ่งที่ต้องการ แทนที่จะ “หาวิธี” ที่จะได้มันมา

ในขนาดที่คนส่วนใหญ่มักยอมลด “แลก” ทุกอย่างออกไป
เพื่อปรับให้สถานะและฐานะ เป็นไปตามกลไกแห่งการลดลงไปเรื่อยๆ

คนที่มีรายได้มากกว่า หรือคนรวยนั้น พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อแลกเหมือนกัน แต่เป็นการแลกเพื่อเพิ่มการยกระดับของสถานะและฐานะขึ้นไป

2 วิธีคิดนี้ ไม่แตกต่างกันมาก แต่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างเหลือเชื่อสมมุติจากเหตุการณ์จริง ตอนนั้นที่ฝุ่น PM. 2.5 เข้ามาในประเทศไทย

คนที่มีทัศนคติลดจะคิดว่า จะทำยังไงให้ซื้อหน้ากากราคาถูกสุดๆ

แต่คนที่มีทัศนคติเพิ่ม จะคิดเลยว่า ควรเอาเข้ามาขาย เพราะข้อแรกคือเราได้ใช้ของถูก และข้อที่สองมันมีโอกาสการทำเงิน หรือทำกำไรให้ได้มากกว่า

นี้คือตัวอย่างง่ายๆ ให้จำลองการคิด ตอนนี้อาจจะสายไปแล้วที่จะนำมาขาย เพราะคนคิดได้เยอะแล้ว แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่สามารถคิดที่จะนำ “ไอเดียเพิ่ม” ทัศนคติแบบเพิ่มไปใช้จริงได้

ทั้งหมดนี้คือการบอกว่า ในหลายๆครั้งเราควรคิดมาทาง “เพิ่ม” ซะก่อน เพราะมันดีกว่ามาก กำลังใจในการทำมันเยอะกว่ามาก ทางเลือกที่คล้ายๆกัน แต่ให้ผลทั้งในด้านการลงมือทำ และกำลังใจแตกต่างกันมาก

คิดที่จะ “ต่อยอด” เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ มองเห็นหลายๆโอกาส ไม่ใช่แค่ลดลง เก็บไปเรื่อยๆ ต่อให้โอกาสมันดีแค่ไหนก็คว้ามาไม่ได้
และคุณคงรู้แล้วว่า มันควรเลือกฝั่งไหนกันแน่…..

บทความนี้ยังคงยืนยันว่าต้องเก็บเงิน และควรมีเงินสำรอง แต่ไม่ใช่การเก็บเฉยๆ ค้างตลอดไป ควรเอาส่วนนึง มาคิดลงทุนต่อยอดด้วย!

#ทัศนคติแบบเพิ่ม
#ไปให้ถึง100ล้าน