เมื่อพูดถึงตลาดการขายของ วิธีช่วยให้สินค้าขายดีที่หลายคนนึกถึงมักจะเป็นเรื่องการขายตัดราคา หรือการจ่ายเงินทำโฆษณาและการตลาดจำนวนมหาศาลเพื่อทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและได้ยอดขายที่ดีตามมา แต่หากคัดเลือกดูจากร้านที่ทำยอดขายได้เยอะ ๆ โดยที่มีทุนไม่มากหรือไม่ได้กระหน่ำทำโปรโมชันแล้วนั้น สูตรสำเร็จจะประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน
นั่นคือ จุดขาย วิธีเพิ่มยอดขาย และ ช่องทางการขาย แค่ 3 ส่วนนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดยอดขายจำนวนมากได้ แบบร้าน Mitr ของคุณอิ๋ม มิลิน วินทะไชย ร้านขายเสื้อผ้าที่มีคู่แข่งมาก แต่ก็สามารถขายได้ 2,500 ออเดอร์ภายในวันเดียว ทำได้อย่างไร ?
เริ่มต้นจาก “จุดขาย” ที่ไม่ใช่แค่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ต้อง “แตกต่างในแบบที่ลูกค้าต้องการ”
ร้าน Mitr เป็นร้านขายเสื้อผ้า พูดแค่นี้ หลายคนคงจะคิดว่า “เสื้อผ้าอีกแล้ว” เพราะใคร ๆ ก็ขายกัน แต่คุณอิ๋มได้มีการสร้างจุดขายใหม่ที่แตกต่าง ตอนแรกคุณอิ๋มเริ่มต้นจากการเปิดร้านขายเสื้อผ้าแบบ Selected Store ก่อน คือการรับเสื้อผ้าจากที่ต่าง ๆ มาขาย ไม่ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเอง
จากที่เป็นคนที่ชอบแต่งตัวและมีความสนใจในด้านแฟชั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็สังเกตได้ว่าสินค้าในตลาดนั้นไม่ค่อยมีความหลากหลาย ดูซ้ำกันไปหมด คุณภาพของวัสดุบางอย่างก็ยังไม่ได้มาตรฐาน และที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือ เวลาลูกค้าซื้อเสื้อผ้าจะมีภาพในใจของตัวเองเลยว่าจะใส่ไปทำอะไร จะเอาไปแมตช์กับไอเทมชิ้นไหน
เลยเข้าใจว่าหากจะทำแบรนด์ของตัวเอง สิ่งที่ต้องมีคือ “จุดขายที่ชัดเจน” คุณอิ๋มจึงได้ตั้งให้ Mitr เป็นแบรนด์ที่มีจุดขายคือ “เสื้อผ้าสไตล์ Resort Wear พวกชุดไปเที่ยว ไปทะเล” โดยเฉพาะ
หลังจากนั้น เมื่อมีสินค้าที่มีจุดขายเด่นแล้ว ขั้นต่อมาคือการหา “วิธีเพิ่มยอดขาย”
วิธีเพิ่มยอดขายต้องมองหาจากลูกค้าก่อน ลูกค้าต้องการอะไร สินค้าแบบไหนที่ลูกค้ายอมจ่าย ซึ่งถ้าแบรนด์สามารถทำสินค้าออกมาได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า นี่ก็เป็นวิธีเพิ่มยอดขายที่ดีที่สุด แบบของแบรนด์ Mitr สิ่งสำคัญที่เน้นมาก ๆ เลยคือ “ลูกค้าใส่แล้วต้องสวย ไม่ใช่แค่ชุดสวย” เน้นไปที่อารมณ์ของลูกค้า และทำทุกอย่างให้คุ้มค่ากับราคา
ทั้งในเรื่องของสัมผัสจากผ้าใยธรรมชาติ การเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ และมีหลักในการออกแบบคือ เน้นไปที่การออกแบบส่งเสริมให้ผู้ใส่ใส่แล้วดูสวย ประกอบกับการออกแบบที่ดูเป็นวินเทจ มองแล้วไม่น่าเบื่อ สามารถ Mix & Match ได้หลายสไตล์ ทำให้สามารถใส่ซ้ำ ๆ ได้ตลอด รวมไปถึงการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ลูกค้าส่วนใหญ่จะใส่เสื้อผ้าของ Mitr ไปเที่ยวทะเล เที่ยวภูเขา คุณอิ๋มจึงเลือกใช้ผ้าที่มีน้ำหนักเบา เพื่อจะได้ไม่เพิ่มน้ำหนักและไม่กินพื้นที่กระเป๋าเดินทาง ด้วยความแตกต่างและความใส่ใจลูกค้านี้ ทำให้แบรนด์ Mitr มีลูกค้าติดตามแบรนด์เยอะ
เมื่อสองจุดนี้พร้อม ต่อไปก็ต้องมองหาช่องทางการขาย หลาย ๆ คนมักจะมองหาแบบเอาหมดทุกช่องทาง แต่แบรนด์ Mitr จะโฟกัสไปที่ช่องทางที่มีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว และมีเครื่องมือสนับสนุนธุรกิจเป็นหลักก่อน เพราะไม่ใช่ทุกช่องทางที่สามารถทำยอดขายได้ดี
แบรนด์ Mitr เปิดมาตั้งแต่ปี 2015 ลงขายสินค้าผ่านทางโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว
จนในปี 2019 คุณอิ๋มได้ตัดสินใจเข้ามาขายใน Lazada เพราะคิดว่าการมาขายบน Lazada เป็นการเปิดโอกาสให้คนได้เห็นสินค้าของแบรนด์ Mitr มากขึ้น ต้องการเพิ่มการมองเห็น (Visibility) ให้แบรนด์ผ่านกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศที่ใช้แอป Lazada อยู่แล้ว และทำให้ร้านมีโอกาสได้ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น โดยตัวช่วยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ทำยอดขายถล่มทลายได้ คือแคมเปญของ Lazada โดยเฉพาะแคมเปญ 11.11 และ 12.12 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี
ในช่วงแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมา (ปี 2022) Mitr สามารถขายสินค้าไปได้ถึง 2,500 ออเดอร์ภายในวันเดียว กวาดยอดขายได้หลักหลายล้านบาท และคุณอิ๋มยังบอกอีกว่า ในช่วงแคมเปญ 12.12 ปีที่แล้ว (ปี 2021) ทางร้านสามารถขายสินค้าได้ 1,000 ออเดอร์ภายใน 2 ชั่วโมงแรก ซึ่งเร็วมาก ๆ และจบวันด้วยยอดออเดอร์กว่า 2,500 ออเดอร์ พร้อมยอดขายแตะหลักหลายล้านเหมือนเดิม
นอกจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวแล้ว หลังจากการเข้าร่วมแคมเปญทุกครั้ง ทางร้านจะมียอดผู้ติดตามร้านค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 – 2,000 คน นับเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่ดีมาก ๆ
3 เคล็ดลับการเตรียมตัวเข้าร่วมแคมเปญ 12.12 แบบฉบับของร้าน Mitr
การเตรียมสต๊อกให้พร้อมขาย ที่ Lazada จะมีเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจที่สามารถเช็กได้ว่าตอนนี้มีคนกดสินค้าใส่ตะกร้ากี่ชิ้นแล้ว หากสินค้าในสต๊อกไม่พอขาย ทางร้านก็สามารถผลิตเพิ่มให้ทันวันแคมเปญได้ เพื่อไม่ให้ขาดโอกาสในการขาย
สิ่งที่ควรทำควบคู่ไปกับการเข้าร่วมทุกแคมเปญ คือการจัดโปรโมชัน ทำคูปองส่วนลด และใช้เครื่องมือทำการตลาดต่าง ๆ ของ Lazada นอกจากนี้ ทาง Lazada ก็ยังช่วยออกคูปองสนับสนุนร้านค้า อย่าง Lazada Bonus และคูปองส่งฟรีทั้งแพลตฟอร์มให้ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากขึ้น
และสุดท้าย โปรโมทผ่านทางโซเชียลมีเดียที่แบรนด์มี เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าในช่วงนี้ Lazada จะมีเซลครั้งใหญ่เพื่อให้ลูกค้ามาเตรียมกดสินค้าใส่ตะกร้า และถ้าทางแบรนด์แชร์ลิงก์ Lazada Affiliate ลงในโซเชียลมีเดีย แล้วมีลูกค้ากดซื้อผ่านทางลิงก์นั้น แบรนด์จะได้ค่าคอมมิชชันสูงสุด 50%* อีกด้วย ถือเป็นการรับรายได้แบบสองต่อ
คุณอิ๋มพูดทิ้งท้ายว่า Lazada มีส่วนช่วยแบรนด์ Mitr ให้เติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะเรื่องระบบจัดการหลังบ้านที่ครบวงจร และมีเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจที่ทำให้เรามองเห็นถึงเรื่องความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ว่าลูกค้าชอบสินค้าตัวไหน เพื่อให้เรานำข้อมูลตรงนี้ไปพัฒนาสินค้าตัวใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด หรือเราควรออกแบบโปรโมชันอย่างไรเพื่อให้โดนใจลูกค้า
และสิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งใน Lazada คือชอบที่มีทีมงานคอยดูแลร้านค้า เวลาที่เรามีปัญหาหรือต้องการคำปรึกษา จะมีทีมงานมาคอยช่วยดูแลร้านค้าตลอด ในมุมผู้ขายแบบเราก็เหมือนมีพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้ ช่วยสร้างทั้งยอดขาย และกลุ่มลูกค้าติดตามใหม่ ๆ ให้เราได้
หากใครอยากเปิดร้านกับ Lazada สมัครได้ที่ https://lzd.co/3EPeI7G
Lazada #LazadaTH #LazadaHappySelling #1212ปล่อยพลังผู้ขายส่งท้ายปี
Lazada1212 #Lazada1212TH #เซลใหญ่ส่งท้ายปี #เซลปล่อยใจแล้วไปช้อปกัน
100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน #SERVgroup
*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lazada.co.th