ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า วิกฤติใหญ่ที่หลายธุรกิจกำลังเจอกันอยู่คือ “การขาดแคลนทรัพยากร” ที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัย ทางออกที่จะช่วยให้ธุรกิจรอดไปด้วยกันคือการปรับตัว
พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มตระหนักถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่กำลังกัดกร่อนธรรมชาติของโลกไปทีละนิด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ต้นเหตุของปัญหานั้นก็เกิดมาจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่สร้างโดยมนุษย์นั่นเอง
การสำรวจผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกโดย NielsenIQ 2023 พบว่า 77% ของผู้บริโภคจะหยุดซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่ไม่รักษาสิ่งแวดล้อม โดยที่ผู้บริโภคเกือบทั้งหมด (95%) เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างเพื่อความยั่งยืนของธรรมชาติเช่น ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก หรือแยกขยะจากการรีไซเคิล
ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้ความสนใจแก่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงหาทางเลือกให้กับตัวเอง แต่มันคือการหาทางรอดให้กับโลกของพวกเราทุกคน
ในวันจันทร์ที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา 100WEALTH ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน EARTH JUMP2023 : New Frontier of Growth งานสัมมนาธุรกิจที่มีประเด็นน่าสนใจมากมาย โดยหนึ่งในหัวข้อที่มีประโยชน์ต่อการปรับตัวของ SME ไทยคือ “Thinking ESG, Unlocking Sustainability Business Mindset” ซึ่งบรรยายโดย คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย
คุณขัตติยากล่าวว่า โลกของเรากำลังร้อนขึ้นในทุก ๆ ปี หากว่าเราไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างเลย เป็นไปได้ว่าอุณหภูมิจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น 4.5 องศาเซลเซียส แม้ว่าปัจจุบันจะมีตัวเลขอยู่ที่ 1.2 องศาเซลเซียสก็ตาม แต่ถึงมันจะไม่สามารถทำให้เลขลดดลงได้ แต่มันก็สามารถทำให้ตัวเลขไม่เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
การบรรยายของขัตติยายังกล่าวถึงกุญแจสำคัญในการขยายธุรกิจที่คำนึงต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งภาคธุรกิจสามารถนำไปปรับได้โดยการ “ปฏิวัติแนวคิดของตัวเอง” ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงแต่ต้องพลิกแนวคิดใหม่ เพราะความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของทุกธุรกิจในยุคปัจจุบัน
ไม่เพียงแค่ทรัพยากรด้านการเงิน แต่ยังรวมถึงทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการเติบโตของ Green Business เพราะในโลกของธุรกิจแบบความยั่งยืน คนที่เก่งและมีแนวคิดจะเริ่มหาได้ยากขึ้น ดังนั้นหากคุณมีพวกเขาอยู่ในองค์กรแล้ว อย่าปล่อยให้หลุดมือไป
ความยั่งยืนเป็นเหมือนกับโอกาสที่เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและการดำเนินการทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เพิ่มมากขึ้น การขายสินค้าที่ผู้บริโภคยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้นหากถูกผลิตด้วยวัตถุดิบหรือกระบวนการที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังได้รับความเชื่อมั่นจากคู่ค้าต่างประเทศและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของตลาด
ทั้งนี้คุณขัตติยายังได้พูดถึงบทบาทที่ธนาคารกสิกรไทยกำลังลงมือทำคือ “Net Zero Commitment” ปรับกระบวนการทำงานของธนาคาร เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะลดให้เหลือศูนย์ภายในปี 2030
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกองทุน Beacon Impact Fund ด้วยเงินสนับสนุนการลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โดยมีนโยบายลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วง Post-revenue หรือสามารถสร้างรายได้แล้ว มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน และสามารถเติบโตได้ดี เพื่อผลักดันแนวคิดแห่งความยั่งยืนและสนับสนุนพฤติกรรมเชิงบวกให้แก่บริษัทสตาร์ตอัพ
และยังเตรียมจัดสรรสินเชื่อและเงินลงทุนด้านความยั่งยืนรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวอย่างต่อเนื่องรวม 100,000 – 200,000 ล้านบาท ภายในปี 2030 เพื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าให้มุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืนไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ภายในงานยังมีหัวข้อที่น่าสนใจอย่าง “Sustainability is the New Digital” ซึ่งบรรยายโดย คุณ Gustavo Fuchs Regional Director, Solutions & Technology จาก Google Cloud Asia Pacific ที่จะมาพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัล
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเผชิญ และเป็นสิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อเราทุกคนอย่างลึกซึ้ง” เป็นคำพูดของคุณ Sundar Pichai CEO ของ Google ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้เราเห็นได้ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็มองเห็นปัญหาของการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดจากมนุษย์เช่นเดียวกัน
แล้ว Google มีวิธีการในการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าได้ยังไง?
คุณGustavo Fuchs อธิบายไว้ว่า สิ่งที่ Google ทำในการช่วยเหลืออย่างยั่งยืนคือ ลดการปล่อย Carbon Footprint ทางดิจิทัล, สร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน, ทำความเข้าใจ ESG (Environment, Social และ Governance) เพื่อขับเคลื่อนปฏิบัติ และ ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามความเสี่ยงด้านอากาศ
โดยภาคธุรกิจสามารถดำเนินการตามได้ดังนี้
O Executive Alignment – กำหนดเป้าหมาย ความยั่งยืนและผลลัพธ์ที่คาดหวังในระดับผู้นำ
O Value Discovery – ดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการ การค้นพบคุณค่าเพื่อระบุโอกาส ตัวขับเคลื่อนคุณค่า และแนวทางแก้ไข
O Develop Roadmap – สร้างแผนงานการปรับใช้ระบบคลาวด์ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจและผลกระทบต่อความยั่งยืน
O Deliver Solution – ใช้โซลูชัน Google Cloud และประเมินการสร้างมูลค่า
นวัตกรรมหนึ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ Google Earth ยังคงมีส่วนช่วยในเรื่องของ Supply chains อีกด้วย
และในส่วนของการเสวนาที่น่าสนใจของงานนี้คือหัวข้อ “Mass EV Adoption, Driving the Future of Greener Transport – EV Case Study” โดยมี ดร. วราภรณ์ ข้องเกี่ยวพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานกลยุทธ์และการขับเคลื่อนองค์กร บจก. ไปรษณีย์ไทย คุณ Michael Chong General Manager, Great Wall Motor (Thailand) และ คุณสุขสันต์ วัฒนายากร Head of Project, Watt’s Up ธนาคารกสิกรไทย ร่วมพูดคุยกันใน Session นี้
คุณสุขสันต์ให้ความเห็นว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อวิกฤตินี้คือควันจากรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพที่มีการใช้อย่างมาก เพื่อเป็นวิธีการแก้ทั้งปัญหาฝุ่นและเศรษฐกิจ H SEM Motor ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วย สนง.ทรัพย์สินจุฬาฯ (PMCU) และ foodpanda ในการให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และติดตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือ H SEM POWER STATION ตามสำนักงานธนาคารเพื่อสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถแบบ EV มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทางไปรษณีย์ไทยเองก็ได้เริ่มเปลี่ยนจากการใช้งานรถสันดาปของกลุ่มบุรุษไปรษณีย์เป็นรถ EV เช่นเดียวกัน ทางด้านของคุณ Michael Chong ยังมองว่าโลกของนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือนอกจากการมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ขับขี่บนท้องถนน ยังคงต้้องมอบความเป็นมิตรให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย
ซึ่งถ้าหากพูดถึงโอกาสในการเติบโตของตลาด EV ในประเทศไทยแล้ว ทั้ง 3 ท่านมีความเห็นที่ตรงกันว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรม EV เติบโตไปข้างหน้า ด้วยสาเหตุจากมูลค่าของรถไฟฟ้าที่ลดลง คุณภาพของแบตเตอรีที่ดีขึ้น รวมถึงชิ้นส่วนที่ทำให้ต้นทุนดีขึ้น ศักยภาพการเติบโตของ Exporter เติบโตขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น อุตสาหกรรมจะเติบโตไปเพียงคนเดียวไม่ได้หากปราศจากการร่วมมือและการสนับสนุนจากภาครัฐ ที่จะช่วยสนับสนุนกับผู้ผลิตหรือกับกลุ่มผู้ใช้ในด้านของความรู้และความเข้าใจในระบบ EV
ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือกของธุรกิจ แต่มันคือทางรอดของธุรกิจในปัจจุบัน ภายในงาน EARTH JUMP 2023 : New Frontier of Growth ได้กลายเป็นแหล่งความรู้มากมายในส่วนของปัจจัยที่หลายธุรกิจมักมองข้ามและไม่เคยให้ความสำคัญ จนกระทั่งสิ่งนั้นกลับมากระทบกับตัวเอง
ธนาคารกสิกรไทยยังคงเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวของธุรกิจที่จะสามารถเติบโตไปได้ดีขึ้นพร้อมกับการมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่ดีขึ้นเช่นกัน เพราะนั่นคือก้าวต่อไปที่จะทำให้ทั้งสิ่งแวดล้อมและมนุษย์สามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ และก้าวต่อไปยังอนาคต เพื่อผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น โดยสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้จากการเริ่มต้นลงมือทำในปัจจุบัน
#EARTHJUMP2023 #NEWFRONTIEROFGROWTH #100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน