มองหาสิ่งที่ “กำลังจะขายดี” ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่น ขายดีอยู่แล้ว หาช่องว่างตลาดให้เจอ ให้กำไรมากกว่าตลาดที่อัดแน่น กรณีศึกษา “Kojo” ที่ได้กำไรหลักแสน ตั้งแต่เดือนแรกทันทีที่ลงขายบน Lazada

ท่ามกลาง การแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือด มือใหม่ที่อยากขายสินค้ามักจะมองหาตลาดที่ขายดี เพื่อเอาสินค้ามาขายบ้าง เพราะดูแล้วมีโอกาสมากกว่า ทำให้กลุ่มสินค้าที่ขายดี มีจำนวนคู่แข่งที่ค่อนข้างสูง

จึงเกิดการเข้าไปแย่งชิงตลาดในพื้นที่ที่อัดแน่น เปรียบเหมือน ต้นไม้น้อยใหญ่ที่แย่งพื้นที่กันเพื่องอกเงย

ทางออกของธุรกิจที่ดีกว่านั้น คือ การมองหาพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังมีช่องว่าง มีช่องว่าง พูดให้เห็นภาพคือ มองหาสินค้าที่ “กำลังจะขายดี” สร้างกำไรได้มากกว่า

เช่นเดียวกับคุณธนภร ฉิมตะวัน (พีช) และ คุณปภาวดี ประวัติโยธิน (แก้ม) เจ้าของธุรกิจ โปรตีนจากพืช Plant Based Protein “Kojo” ที่มองเห็นพื้นที่ว่างของเทรนด์เครื่องดื่มในตลาดโปรตีนพืช เป็นตลาดที่กำลังค่อย ๆ เติบโตแบบเงียบ ๆ

ตามรายงานของ Bloomberg พบว่าตลาด Plant Based Protein ในปัจจุบันสามารถสร้างรายได้ถึง 7.7% ของตลาดโปรตีนทั่วโลก คาดว่าภายในปี 2030 จะมีมูลค่ากว่า 1,620 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 56,085 ล้านบาท) ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมากนับจากปี 2020

“ตลาดโปรตีนกำลังเติบโตขึ้น พฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป”

เมื่อพูดถึงอาหารที่ทำจากพืช หลายคนอาจคิดว่าแม้จะทำให้สุขภาพดีจริง แต่ก็ต้องแลกมากับรสชาติที่ไม่อร่อย ซึ่งจาก Pain Point ตรงนี้ทำให้ Kojo พัฒนาสินค้าจากจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็ง จนสามารถสร้างรสชาติที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็น รสโฮจิฉะ รสแอปเปิ้ล และรสช็อกโกแลต

นอกจากนี้ การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพอย่างถั่วลันเตาเกรดพรีเมียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ ทำให้มีคุณประโยชน์ที่มากกว่าเจ้าอื่น ๆ ในท้องตลาด

หากบอกว่าการทำธุรกิจก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ดังนั้นหากเลือกดินที่จะปลูก เลือกปุ๋ยที่จะผสมไม่ถูกต้อง มันก็ไม่อาจทำให้ต้นอ่อน เติบโตมาเป็นต้นไม้ใหญ่ได้
.
เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ แม้สินค้าจะเป็นที่ต้องการในตลาด หรือน่าสนใจมากแค่ไหน แต่หากช่องทางขายที่ผิด ก็อาจไม่สามารถสร้างฐานผู้ติดตาม หรือลูกค้าได้มากเพียงพอ การจะขายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มคนที่มากที่สุดคงหนีไม่พ้นการขายออนไลน์ แต่การจะสร้างแพลตฟอร์มด้วยตัวเอง ก็ไม่อาจการันตีความสำเร็จได้

คุณพีชและคุณแก้มจึงเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์กับตัวเองและลูกค้ามากที่สุด
นั่นก็คือแพลตฟอร์มของ “Lazada” จึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แพลตฟอร์มของ Lazada สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วไป โดยถูกคิดเป็น 30% – 40% จากยอดขายทั้งหมด ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถสร้างยอดขายหลักแสนได้ภายในเดือนแรก และสร้างยอดขายหลักล้านได้ในแคมเปญ 3.3 และ Lazada 11th Year Grand Sale ที่ผ่านมา เพราะระบบที่เสถียร ทำให้ร้านค้าสามารถรันได้ด้วยตัวเองได้ นอกจากนี้ยังลดต้นทุนด้านกำลังคนไปได้อีกมากด้วย

Lazada ยังมาพร้อมกับโปรแกรมที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นให้สินค้า อย่าง Lazada Affiliate ที่สามารถนำลิงก์ของสินค้าไปวางบนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ หากมีลูกค้ากดซื้อผ่านลิงก์นั้น แบรนด์จะได้ค่าคอมมิชชันสูงสุด 50% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างรายได้ให้กับแบรนด์อีกด้วย รวมถึงมีแคมเปญให้ร้านค้าได้เข้าร่วมเยอะ ไม่ว่าจะเป็น เมกะแคมเปญ, Double-Digit หรือ Payday ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายจาก Lazada จะนำมาเป็นอันดับ 1 ของแบรนด์

แคมเปญเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขายมากขึ้นเป็นเท่าตัว เรียกได้ว่าได้ประโยชน์กันทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย เพราะในช่วงนี้จะมีคนเข้าแอปฯ ลาซาด้าเยอะเป็นพิเศษทำให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นช่วงกอบโกยของผู้ขายออนไลน์ก็ว่าได้

นอกจากเครื่องมือ แคมเปญ และ โปรแกรมต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างยอดขายของร้านให้เติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญคือทีมงานของ Lazada ที่คอยช่วยเหลือคุณพีชและคุณแก้มอยู่เสมอ ทั้งคอยให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขาย ไปจนถึงการสร้างโปรโมชัน และแนะนำให้เข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ที่ทำให้ร้าน Kojo มียอดขายโตได้อย่างก้าวกระโดด

บางครั้งการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้เติบโตและแข็งแรง ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้น Lazada จึงไม่ใช่เพียงแค่ผืนดินที่เลือกปลูก หรือปุ๋ยที่เป็นสารอาหาร แต่เป็นเพื่อนคู่คิดที่คอยช่วยกันปลูกต้นไม้ต้นนี้ให้แข็งแรงไปด้วยกัน

เปิดร้านกับลาซาด้าวันนี้ เริ่มขายฟรี 1 เดือนแรก* ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
คลิก -> https://lzd.co/3C7kMWN
.
ซื้อสินค้าจากร้าน Kojo คลิก -> https://lzd.co/43a5koQ.
.
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

LazadaTH #Lazada66MegaWOWsale #เซลใหญ่สุดว้าวช้อปมันส์กลางปี

100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน