ไว้ใจมากไป จนบริษัทเจ๊ง ชายผู้ทำให้ธนาคาร 200 ปี ต้องปิดตัวลง เพราะ “ความไว้ใจ” มากเกินไป


Barring Bank เป็นธนาคารเก่าแก่ของอังกฤษที่มีมายาวนาน 200 กว่าปี แต่ต้องล้มละลายเพราะพนักงานคนหนึ่งที่ชื่อ Nick Leeson

ต่อไปนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจาก “ชายผู้มีความโลภ” บวกกับ “ธนาคารเองก็ไม่รอบคอบ” จนเกิดเป็นวีรกรรมยากที่จะลืมเลือน

Nick เป็นพนักงานธนาคารที่เริ่มต้นจากตำแหน่งเสมียนธรรมดา แต่ด้วยความที่เป็นคนขยันจึงนำพาให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งและย้ายไปยังส่วนงานหลักทรัพย์

ในปี 1992 ธนาคาร Barring ได้เปิดแผนกใหม่ซึ่งเป็นแผนกลงทุนเกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้า และจากผลการทำงานที่เติบโตมาตลอดทำให้ Nick ได้ตำแหน่งนี้ไป

Nick ได้รับอำนาจแต่เพียงผู้เดียว โดยต้องไปประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่น โดยมีหน้าที่รับผิดชอบทั้งการซื้อขาย แล้วรายงานตรงต่อสาขาใหญ่ที่อังกฤษ

หน้าที่ของเขาคือการทำกำไรจากสองตลาด โดยใช้สินค้าที่เป็นที่นิยม เช่น หุ้น ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ

หลักการคือ สินค้าชนิดเดียวกันคุณภาพเหมือนกัน แตกต่างกันที่วางขายอยู่ในสองตลาด ทำให้สินค้าชนิดเดียวกันนี้จะมีราคาต่างกัน

เช่นถ้ามีใครสักคนขายหุ้น A ที่ตลาดโตเกียว 10 บาท*ขณะที่ราคาหุ้น A ที่ตลาดสิงคโปร์อาจจะปรับเป็น 11 บาท* (*ปกติซื้อขายตามสกุลเงินแต่ละประเทศ แต่สมมุติให้เห็นภาพง่ายๆด้วยค่าเงินไทย)

จะเห็นว่าค่าเงินจะต่างกันแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ด้วยความที่ซื้อขายมูลค่าเยอะๆ ก็สามารถสร้างส่วนต่างที่สูงได้

ตอนแรก Nick ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในการซื้อขาย จนสร้างผลกำไรมหาศาลให้กับ ธนาคาร Barring (ราว400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 10%)

ด้วยความที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบเพียงผู้เดียว และได้ใจว่าตัวเองมาถูกทาง เขาเริ่มโลภมากขึ้น เริ่มไม่ซื้อขายทันทีเพราะอยากได้มากกว่านี้

ผลปรากฏว่าเขาขาดทุน!
จากขาดทุน80 ล้านบาทในปลายปี 1992 เป็น 900 ล้านบาทในปลายปี 1993

แต่แทนที่จะหยุดและเปลี่ยนแผนการลงทุน เขาดันเริ่มเทรดแบบเสี่ยงมากขึ้น เขาแอบสร้างบัญชีหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้ปกปิดตัวเลขที่ขาดทุน แล้วส่งรายงานแค่ตัวเลขที่ได้กำไรไปให้สำนักงานใหญ่

ทางสำนักงานใหญ่เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งชะล่าใจและประมาทไปหน่อย อาจด้วยเป็นแผนกใหม่ที่ทางธนาคารเองก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อน Nick ว่าไงธนาคารก็ว่าตาม ไม่เคยตรวจสอบใดๆ

ทางNick เองก็ยังมีความหวังว่าจะนำเงินกลับมาได้ เขาเริ่มแหกกฎมากขึ้น นำเงินบัญชีลูกค้ามาเล่น ลงเงินมากขึ้น ตกแต่งบัญชี แถมขนาดโตเกียวเกิดวิกฤติ(แผ่นดินไหว)ทำให้ตลาดหุ้นร่วงNick ก็ยังเห็นว่าหุ้นจะลงแค่ชั่วคราวเดี๋ยวก็กลับมา

จนแล้วจนรอดตัวเลขขาดทุนมันพุ่งทะยานแบบกู่ไม่กลับ และยากที่จะปกปิดอีกต่อไป Nick หนีไปมาเลเซียพร้อมทั้งโน๊ตเอาไว้สั้นๆ เพียงคำว่า “I’m Sorry”

สำนักงานใหญ่ที่อังกฤษทำการสืบสวนบัญชีของเขาในทันที แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วเพราะ ตัวเลขขาดทุนที่เขาก่อไว้ในตอนนั้นสูงถึง 40,000 ล้านบาท!!

ถัดจากวันที่ Nick หนีไปได้เพียง 3 วัน ธนาคาร Barring ก็ประกาศล้มละลาย เพราะรับภาระหนี้ไม่ไหว พร้อมกับทำให้คนตกงานกันอีกนับไม่ถ้วน

เชื่อได้เลยว่าใครที่อ่านจบก็คงโกรธ Nick กันถ้วนหน้าที่ทั้งโลภ ทั้งโกหก ทั้งปกปิดบัญชี และทั้งแหกกฏนำเงินลูกค้ามาลงทุนแบบนี้

แต่ธนาคารเองก็ประมาทที่มอบอำนาจให้คนเพียงคนเดียว แถมยังไม่มีการตรวจสอบใดๆ ไม่มีการประเมินความเสี่ยงภายในทั้งๆที่บอกให้คนอื่นประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุนแท้ๆ

เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดจากความประมาท และไว้ใจมากเกินไปเป็นอันจบฉากธนาคาร Barring ดำเนินการทั้งหมด 233 ปี




#ไปให้ถึง100ล้าน