ธนาคารกลางบราซิล จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาสกุลเงินดิจิทัล ธนาคารกลางบราซิลได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาสกุลเงินดิจิทัล (Digital Currencies) รวมไปถึงศึกษาถึงประโยชน์และความเสี่ยง ราฟาเอล ซาร์เรส เด อัลเมดา เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางบราซิล กล่าวว่า การชำระเงินผ่านทางออนไลน์ มีอัตราการเติบโตอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการออกและบำรุงรักษาธนบัตรและเหรียญ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการเงินกระดาษในบราซิล เนื่องจากค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการจัดการเงินกระดาษในบราซิลอยู่ที่ประมาณ 90 พันล้านเรียลต่อปี หรือโดยปกติจะอยู่ระหว่าง 1-2% ของ GDP ถึงแม้ว่าธนาคารกลางของบราซิลจะศึกษาผลกระทบของการออกสกุลเงินดิจิทัล ในที่สุด ก็ไม่สามารถออกสกุลเงินดิจิทัลได้ เนื่องจากสิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แม้จะมีการเห็นชอบจากคณะที่จัดตั้งขึ้นมานี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ธนาคารกลางบราซิลจะออกสกุลเงินดิจิทัลได้ อัลเมดาร์ กล่าวว่า การศึกษานี้จะช่วยให้ธนาคารกลางบราซิล สามารถให้คำตอบประเด็นนี้ในสังคมได้ นอกจากนี้ คณะทำงานจะประเมินว่าสกุลเงินดิจิทัลสามารถสร้างประโยชน์ให้กับระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ที่มาถึงในเดือนพฤศจิกายนได้อย่างไร อ้างอิง : https://bit.ly/3lj3v3w ...
ชี้ช่องทางธุรกิจร้านกาแฟ-ชานมในกัมพูชาหลังตลาด “บูม” พาณิชย์ชวนคนไทยตะลุยลงทุนในกัมพูชา ถึงแม้ในไทยมีธุรกิจกาแฟ-ชานมอยู่ทุกมุมถนน แต่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยโอกาสการเติบโตของธุรกิจ กาแฟ-ชานมของไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะไลฟ์สไตล์ของชาวกัมพูชาได้เปลี่ยนไป โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงาน มักจะไปนั่งจิบกาแฟ พบปะสังสรรค์ หรือนัดคุยธุรกิจกันตามร้านกาแฟที่บรรยากาศดีๆ น่านั่งกันมาก ส่งผลให้ธุรกิจกาแฟ-ชานมได้รับการตอบรับอย่างดี และปัจจุบันมีแบรนด์ชานมไข่มุกเข้ามาทำตลาดในกัมพูชามากขึ้น ปัจจุบัน ร้านกาแฟและชานม เปิดให้บริการกว่า 300 ร้าน ในกรุงพนมเปญ และประมาณ 500 ร้านทั่วประเทศ โดยแบรนด์ไทยที่เข้ามาเปิดให้บริการแล้วกว่า 10 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Black Canyon, True Coffee, Inthanin, Arabitia, ดอยช้าง, ดอยหล่อ และชาวดอย เป็นต้น โดย Amazon เป็นที่นิยมมาก มีสาขากว่า 140 สาขา ส่วนแบรนด์อื่นๆ เช่น Brown Coffee มีเจ้าของเป็นชาวกัมพูชา, Starbucks มีสาขา 20 สาขา และล่าสุด Arabica จากญี่ปุ่น เพิ่งเข้าไปเปิดสาขา ...
อัปเดตสิทธิ์ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” ผู้ที่ถือบัตรจะได้สิทธิ์อะไรบ้าง? เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาครัฐออกมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชน และผู้ที่ถือ” บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ซึ่งหลายท่านอาจจะยังสงสัยว่าการที่เราถือ”บัตรคนจน” นั้นจะได้สิทธิ์อะไรบ้างหรือจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเท่าไร วันนี้เรามีการอัปเดตสิทธิ์ของบัตรในเดือนสิงหาคม 2563 ไว้ดังนี้ 1. วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค จะได้เดือนละ 200-300 บาท ขึ้นอยู่กับเงินรายได้ต่อเดือน โดยสามารถไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านค้าที่เข้าร่วมกับโครงการได้เลย 2. ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ โดยจะครอบคลุมทั้งรถเมล์, รถไฟ, รถไฟฟ้า และ บขส. ซึ่งจะได้รับรายละ 500 บาท 3.ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม ซึ่งจะได้รายละ 45 บาทต่อ 3 เดือน โดยจะต้องใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมเท่านั้น หากไม่ใช้สิทธิ์ภายใน 3 เดือน จะถูกตัดยอดเงินส่วนนี้ไป 4.เงินคืนภาษี 5% ของยอดเงินที่ใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยแต่ละคนจะได้เงินคืนสูงสุด 500 บาท ซึ่งจะเป็นการจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ถ้าใช้เงินไม่หมด สามารถนำไปใช้ได้ในเดือนถัดไป 5.เงินพิเศษผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และต้องถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินช่วยเหลือ 50-100 บาทต่อเดือน ...